ตร. เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยิงปืนตำรวจอาเซียนระบบ IDPA สานสัมพันธ์เชื่อมต่อความร่วมมือพัฒนาศักยภาพตำรวจไทย
วันจันทร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๑.๓๐ น. ณ ห้องสารสิน ชั้น ๒ อาคาร ๑ สำนักงานตำรวจแห่งชาติพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันยิงปืนอาเซียน ประจำปี ๒๕๖๑ พร้อมด้วย พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ/หัวหน้าคณะทำงาน, พลตำรวจโท ต่อศักดิ์ สะอาดพรรค ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/รองหัวหน้าคณะทำงานและ พลตำรวจโท วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/รองหัวหน้าคณะทำงาน ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขันยิงปืนตำรวจอาเซียน ประจำปี ๒๕๖๑ (ASEAN Police Shooting Competition 2018) ซึ่งปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และริเริ่มให้มีขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกโดยมีกำหนดจัดการแข่งขันขึ้นในระหว่างวันที่ ๓-๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ สนามยิงปืนค่ายนเรศวร อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเสริมสร้างทักษะและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่แก่ข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ให้มีความคล่องตัว และมีความชำนาญมากยิ่งขึ้น จึงมีดำริให้มีการบรรจุหลักสูตรการยิงปืนระบบ IDPA (International Pistol Association)
ซึ่งเป็นระบบการยิงปืนทางยุทธวิธีที่ได้จำลองสถานการณ์การป้องกันตนเอง และการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มีความเสมือนจริง ซึ่งได้รับความนิยมกันทั่วโลก ให้เป็นหลักสูตรหลักในการฝึกอบรมแก่ข้าราชการตำรวจ อีกทั้งเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของข้าราชการตำรวจไทยทางด้านยุทธวิธี จึงกำหนดจัดการแข่งขันยิงปืนอาเซียน ประจำปี ๒๕๖๑ โดยใช้ระบบยิงปืนระบบ IDPA เป็นครั้งแรกในการแข่งขันเป็นกีฬา ซึ่งมีกฎและกติกาที่แน่นอน และเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ เข้าใจ อันนำไปสู่ความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายระหว่างตำรวจในภูมิภาคอาเซียน และประเทศคู่เจรจาของอาเซียน สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น ๒ ประเภทคือ IDPA สำหรับข้าราชการตำรวจทั่วไป และ IPSC shoot off (สำหรับผู้บริหารองค์กรตำรวจระดับพลตำรวจตรีขึ้นไป) โดยในปีนี้มีผู้แทนนักกีฬายิงปืนเข้าร่วมการแข่งขันจากประเทศต่าง ๆ รวม ๑๑ ประเทศ ดังนี้ ประเทศมาเลเซีย, ราชอาณาจักรกัมพูชา, สาธารณรัฐอินโดนีเซีย, สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา, สาธารณรัฐฟิลิปปินส์, สาธารณรัฐสังคมเวียดนาม, สาธารณรัฐสิงคโปร์, สาธารณรัฐประชาชนจีน, ประเทศญี่ปุ่น, สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และสหพันธ์ออสเตรเลีย
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมชมการแข่งขันยิงปืนตำรวจอาเซียน ประจำปี ๒๕๖๑ ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว
วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
นาย นครินทร์ ผินกลับ
พนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ชำนาญงาน สังกัด
สถานีดับเพลิงธนบุรี
กองปฎิบัติการดับเพลิง4. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้ติดตาม
นาย ชรินทร์ ผินกลับ
นาย นรินทร์ ผินกลับ
ร่วมกิจกรรมมอบรางวัล
CEO / และเป็นคณะผู้ติดตาม ประธาน มอบรางวัล พลเอก เสริมศักดิ์ วิเศษไชยครี
พร้อมด้วย ผู้รับมอบรางวัล CEO
นางสาว วิมลศิริ กุลบดีจิโชติ (ดร.)
ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบช.ภ1 , พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 และ พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าชุดขยายผล ศอ.ปส.ภ.1. คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศอ.ปส.ภ.1 ประกอบด้วย พ.ต.ท.ศิริมงคล สุขะปารมี รอง ผกก.ป.สภ.คูบางหลวง หน.ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศป.ปส.ภาค 1 ,พ.ต.ท.ประเสริฐ สาธรราษฎร์ สว.สส.สภ.บางแม่นาง, ร.ต.อ.ปิยะวัฒน์ กัลยา รองสว.สส.สภ.สำโรงเหนือ ,ร.ต.อ.อำนาท คำแทน รอง สวป.สภ. สำโรงเหนือ, ร.ต.อ.นนท์ ทองแพง รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือ, ร.ต.อ.วิโรจน์ โอภาสวัฒนา รอง สว.สส.สภ.สำโรงเหนือ, ด.ต.สุรศักดิ์ ผิวอุ่น ผบ.หมู่(สส.)สภ.สำโรงเหนือ,ด.ต.วัชรินทร์ ปึกกระโทก ผบ.หมู่(สส.) สภ.สำโรงเหนือ, ส.ต.ท.เกริก เส็งตากแดด ผบ.หมู่(ป)สภ.สำโรงเหนือ,ส.ต.ท.พิสิฐพงษ์ พรานหาญ ผบ.หมู่(ป.) สภ.เมืองสมุทรปราการ,ส.ต.ท.สมัชชา ถมยาพิทักษ์สกุช ผบ.หมู่(ป.)สภ.บางเสาธง, ส.ต.ท.ศุภกร นนท์สามารถ ผบ.หมู่(ป)สภ.สำโรงเหนือ,ส.ต.ต.นราธร ปวงคำ ผบ.หมู่(ป)สภ.สำโรงเหนือ และ ส.ต.ต.วุฒิพงษ์ ประจวบสุข ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บางพลี ได้ร่วมกันจับกุมตัว
1.นายเกียรติก้องหรือตี๋ แซ่ตั้น (1-1007-01925-54-7) อายุ 24 ปี
ที่อยู่บ้านเลขที่ 981 ม.3 ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาบ้า จำนวน 3 มัด (จำนวน 6,000 เม็ด) ( ยึดได้ขณะจับกุมตัวบริเวณใต้อาคารบี เดอะล๊อค 3 ) รายการที่ 1
2.ยาไอซ์หนัก 1 ขีด ( 100 กรัม ) (อยู่รวมกับของกลางรายการที่ 1) รายการที่ 2
3.ยาบ้า จำนวน จำนวน 274 มัด ( จำนวน 548,000 เม็ด )( ยึดได้ที่ห้องพักเลขที่ 710/301 ชั้น 5 อาคาร บี เดอะล๊อค 3 ) รายการที่ 3
4.ยาไอซ์น้ำหนัก 1.3 กิโลกรัม ( ยึดได้ที่ห้องพักเลขที่ 710/301 ชั้น 5 อาคาร บี เดอะล๊อค 3 ) รายการที่ 4
5.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง ( ยึดได้จากตัวผู้ต้องหาขณะจับกุม ) รายการที่ 5
รวมของกลางยาบ้าที่ตรวจยึดจำนวน 554,000 เม็ด และยาไอซ์หนัก 1.4 กิโลกรัม
ทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2534 มีดังนี้
1.รถยนต์ยี่ห้ออิซูซุ ดีแม็ก ทะเบียน 7กฌ-5570 กทม. สีขาว จำนวน 1คัน
ราคาประมาณ 870,000 บาท
2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ BMW รุ่น S1000RR จำนวน 1 คัน ราคาประมาณ 1,300,000 บาท
3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ PCX ราคาประมาณ 90,000 บาท
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด ประมาณ 2,260,000 บาท
โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้าและยาไอซ์ )ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
สถานที่และวันเวลาที่เกิดเหตุ บริเวณใต้ถุนอาคาร บี เดอะล๊อค 3 ซอยสุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 19.00 น.
พฤติการณ์การจับกุม
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศอ.ปส.ภ1 ทราบว่าในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ มีเครือข่ายแก๊งค์องค์ชายห้าซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าเป็นสมาชิกของแก๊งค์เป็นจำนวนมาก สมาชิกของแก๊งมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและยากต่อการสืบสวนจับกุม พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบช.ภ1ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ศอ.ปส.ภ.1 เข้าไปทำการสืบสวนเพื่อจับกุมสมาชิกของแก๊งค์ดังกล่าวนี้ โดยจากการสืบสวนและขยายผลจากข้อมูลของผู้ถูกจับกุมในคดียาเสพติดเขต พื้นที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ในคดีจับกุมตัว 1.นายณัฐพล ศิริบุญ 2.นายธนดล ศิริวงษ์
พร้อมของกลาง ยาบ้า 12,000 เม็ดและ ยาไอซ์ประมาณ 400 กรัม
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 22.00 น.ที่ริมถนนสุขุมวิท ปากซอยบุญศิริ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นั้น
จากการซักถามผู้ต้องหาทั้งสองแจ้งให้ทราบว่าได้รับจ้าง นายพร้อมพงศ์หรือเบียร์ น้อยศรี ให้ไปรับยาเสพติดของกลางดังกล่าวจากลูกน้อง นายห้าหรือโหงว ที่บริเวณริมถนนบางนา-ตราด เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมของกลางระหว่างเดินทางกลับที่พัก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศอ.ปส.ภ.1 จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลถึงเส้นทางการเงินของเครือข่ายนี้ พบว่านายพร้อมพงศ์หรือเบียร์ น้อยศรี ได้โอนจ่ายเงินค่ายาเสพติดให้กับนายห้าหรือโหงว จาก บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 033-3-76778-3 มีนายณัฐพล ศิริบุญ เป็นเจ้าของบัญชี โอนไปยังบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 015-1-71032-8 มีนายเกียรติก้อง แซ่ตั้น เป็นเจ้าบัญชี เป็นประจำ จึงได้ทำการตรวจสอบประวัติ ค้นหาที่อยู่ที่พัก และเฝ้าสะกดลอยติดตามดูพฤติการณ์ของนายเกียรติก้อง แซ่ตั้น อยู่ระยะหนึ่ง จนทราบว่านายเกียรติก้อง แซ่ตั้น มีห้องพักอยู่จำนวน 2 แห่ง คืออาคารบี เดอะ ล๊อค 3 ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ และอาคารชุด ไอดีโอ บลูโคฟ –อุดมสุข ตั้งอยู่ที่ ริมถนนสุขุมวิท ใกล้แยกบางนา แขวง-เขตบางนา กรุงเทพฯ จากข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากสายลับ แจ้งให้ทราบว่าแก้งค์องค์ชายห้า เพิ่งไปรับยาเสพติดมาได้ไม่นาน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้วางแผนนำกำลังซุ่มดูพฤติการณ์เพื่อจับกุมตัว นายเกียรติก้อง แซ่ตั้น ตามที่พักทั้งสองแห่งดังกล่าวมาข้างต้น จนในวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่เฝ้าอยู่ที่อาคารบี เดอะล๊อค 3 ได้พบนายเกียรติก้อง แซ่ตั้น เดินถือถุงพลาสติกแบบมีหูหิ้วสีขาวแดง ลงมาจากอาคารดังกล่าว เชื่อว่าสิ่งของที่อยู่ในถุงพลาสติกดังกล่าวคือยาเสพติดแน่นอน จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้นสิ่งของภายในถุงพลาสติกดังกล่าว จากการตรวจค้นปรากฏว่าพบของกลางรายการที่ 1 เป็นยาบ้าจำนวน 3 มัด ( 6,000 เม็ด ) และยาไอซ์หนัก 1 ขีด รายการที่ 2 อยู่ในถุงพลาสติกดังกล่าวจริง และนายเกียรติก้อง ได้สมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นที่ห้องพักเลขที่ 710/301 ชั้น 5 อาคารบี เดอะล๊อค 3 พบ ยาบ้าอีก จำนวน 274 มัด ( ยาบ้า 548,000 เม็ด ) รายการที่ 3 และยาไอซ์หนัก 1.3 กิโลกรัม รายการที่ 4 ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว
จากการสอบถามขยายผลจากการจับกุมตัว นายเกียรติก้อง แซ่ตั้น รับว่าเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา มีนายธนกฤตหรือห้าหรือโหงว กาญจนรัตน์ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก้งค์องค์ชายห้า ได้ว่าจ้างให้ตนเอง เป็นยาบ้ามัดละ 500 บาท และยาไอซ์ กิโลกรัมละ 5,000 บาท ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย เลยห้างสรรพสินค้าโลตัส -บางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นยาบ้าจำนวน 300 มัด (600,000 เม็ด )และยาไอซ์หนัก 5 กิโลกรัมจากนั้นได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องพักดังกล่าวข้างต้น เพื่อรอรับคำสั่งจาก นายธนกฤตหรือห้า หรือโหงว เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าอีกทอดหนึ่ง และได้นำยาเสพติดบางส่วนส่งมอบให้กับลูกค้าของนายธนกฤตหรือห้า หรือโหงว ไปบางส่วนแล้ว ส่วนนายธนกฤตหรือห้าหรือโหงว อยู่ระหว่างทำการสืบสวนเพื่อดำเนินคดีข้อหา สมคบ สนับสนุน กันเกี่ยวกับยาเสพติด และตรวจสอบทรัพย์สินกับบุคคลที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เคทอง ผกก.กก.ปพ.บก.สส.ภ.1 โดยการนำของ พ.ต.ท.สิงหราช ป้องอติคุณ รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1, พ.ต.ท.พรรณลบ สำราญสม รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 ได้ทำการจับกุมตัว 1.นายณัฐวุฒิ หรือ ดีน โนทะเวียน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 5 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จว.พระนครศรีอยุธยา เลขประจำตัวประชาชน (1-1499-00459-08-1) 2.นางสาวชีวาพร หรือเกมส์ มุสิกบุญเลิศ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126/1 หมู่ 8 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จว.สระบุรี เลขประจำตัวประชาชน (1-2104-0000-47-7) พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) จำนวน 5 มัด (จำนวน 10,000 เม็ด) 2.รถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 6409 พระนครศรอยุธยา จำนวน 1 คัน 3.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ไอโฟน-8 หมายเลขโทรศัพท์ 097-275-6376 จำนวน 1 เครื่อง 4.โทรศัพท์ มือถือไอโฟน-6 หมายเลขโทรศัพท์ 098-526-7381 จำนวน 1 เครื่อง สถานที่เกิดเหตุ ริมถนนธัญบุรี-วังน้อย หมู่ที่ 3 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครอง โดยผิดกฎหมาย
****************************************
ภาพ//ข้อมูล
แจ๊คพญามังกร
งาน "ความสำเร็จมาตรฐานธุรกิจ" Best Product Of The Year 2018 ในวันอาทิัตย์ที่ 27 พฤษภาคม 2561 ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
บริษัท ชาต้าอี้กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย Mr. หลิว ซวิน กรรมการผู้จัดการบริษัท ได้นำชาผู่เอ๋อร์มาจัดแสดงและจัดให้ผู้มาร่วมงานได้ดื่ม
โดย บริษัท ชาต้าอี้กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายชาผู่เอ๋อร์ต้าอี้
ชาผู่เอ๋อร์ เป็นชาที่นำเข้ามาจาก สิบสองปันนา ประเทศจีน ชาผู่เอ๋อร์ ถือเป็นชาเพื่อสุขภาพ โดยการแบ่งประเภทชาผู่เอ๋อร์ จะมี ชาสุกและชาดิบ
เมื่อดื่มชาสุกผู่เอ๋อร์ เป็นประจำจะช่วยบำรุงในเรื่อง
1.ลดความดันโลหิต
การดื่มชาผู่เอ๋อร์ โดยเฉพาะดื่มหลังทานอาหาร เส้นใยอาหารและสารประเภทโมเลกุลใหญ่ในน้ำชาจะห่อหุ่มคอเลสเตอรอล และไขมันในอาหาร ปรับปริมาณคอเลสเตอรอลและไขมันในเส้นเลือด นอกจากนี้ยังลดความหนืดของเส้นเลือดด้วย
2.ลดไขมันในเส้นเลือด
ด้วยคุณสมบัติของสาร ที โพลีฟีนอล และเพกตินในใบชา ที่สามารถรวมตัวกับคอเลสเตอรอลและไขมันในลำไส้ จึงช่วยลดการดูดซึมได้ ทำให้ไขมันในเส้นเลือดและปริมาณไบล์ แอซิด ในลำไส้ลดลง
3.ลดปริมาณน้ำตาลในเลือด
คุณสมบัติที่หลากหลายของสารที โพลีฟีนอล ในชาสุกผู่เอ๋อร์ ที่สามารถรวมตัวกับน้ำตาลกลูโคส ช่วยลดอัตราการดูดซึมของกลูโคสทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้น
4.ปกป้องกระเพาะและลำไส้
- สารจุลินทรีย์เอนไซม์ ในชาสุก ช่วยลดการหลั่งของเพพซิน ในกระเพาะ
- สารที พอลิแซ็กคาไรค์ และสารโอลิโกแซ็กคาไรด์ ในชาสุกสามารถเพิ่มไบดิโดแบคทีเรีย และแล็กโทบาซิลลัสในลำไส้ช่วยในการดูดซึมของลำไส้ได้ดีขึ้น
5. บำรุงผิวหน้า
- สารเทียริรูบิจินส์ ในชาสุกผู่เอ๋อร์ สามารถขจัดอนุมูลอิสระและต่อต้านออกไซด์จึงช่วยชะลอความแก่ได้
- สารในชาสุก สามารถขับสารพิษในล้ำไส้ ลดการหลั่งของต่อมไขมัน ช่วยให้ผลลัพธ์ในการบำรุงผิวหน้า
- สารที โพลีฟีนอล ในชาสุกสามารถขจัดไขมันในผิวหน้า ลดอาการอักเสบและต่อต้านความหย่อนคล้อยของผิวหน้า
และเมื่อดื่มชาดิบผู่เอ๋อร์ เป็นประจำจะช่วยบำรุงเรื่อง
1.ต้านอนุมูลอิสระ ชาผู่เอ๋อร์ เลือกใช้เฉพาะใบชาสดขนาดใหญ่ ซึ่งมีสารที โพลีฟีนอล สูงเป็นสารที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
2.ต้านรังสี ชาดิบผู่เอ๋อร์ มีสารที่สามารถขจัดอนุมูลอิสระหลายอย่าง เช่น ทีโพลีฟีนอล พอลิแซ็กคาไรด์ และสารประเภทวิตามิน เป็นต้น จึงมีส่วนช่วยป้องกันรังสี Co-r ในระดับหนึ่งแต่ไม่สามารถส่งเสริมการฟื้นฟูหลังถูกรังสีได้
3.ต้านโรคมะเร็ง สารทีโพลีฟีนอล และสารพอลิแซ็กคาไรด์ ในใบชาผู่เอ๋อร์ มีคุณสมบัติดูดซึมรังสีบางชนิด ช่วยลดผลกระทบที่สารกัมมันตรังสี มีต่อเซลล์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สาร EGCG ในใบชายังสามารถระงับการเติบโตและการเคลื่อนที่ของเซลล์มะเร็งในร่างกายได้อีกด้วย ที่สำคัญชาผู่เอ๋อร์มีสารต่อต้านออกไซด์ในปริมาณสูง จึงช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจนลดอัตราที่เซลล์ธรรมดา จะกลายเป็นเซลล์มะเร็งลงได้
4.บำรุงสมองและระบบประสาท ในใบชาผู่เอ๋อร์มีสารทีอะมีน ช่วยให้ผ่อนคลาย และบำรุงประสาท นอกจากนี้ยังช่วยรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพด้านความจำและขีดความสามารถในการเรียนด้วย
5.ต้านเชื้อและไวรัส ด้วยคุณสมบัติของสารทีอะมีน ในใบชาผู่เอ๋อร์ ช่วยต่อต้านเชื้อและไวรัสได้หลากหลายและมีประสิทธิภาพสูง เช่น เชื้อไข้มาลาเรีย เชื้อไข้หวัดใหญ่ประเภท A และ B ไวรัสกระเพาะอักเสบ ไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น
โดยชาผู้เอ๋อร์มีวางจำหน่ายในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ เช่น รูปแบบชาแผ่น รูปแบบชากระป๋อง และรูปแบบชาซอง เป็นต้น เพื่อความสะดวกสบายของผู้ดื่ม
ในทุกเพศ ทุกวัย
ชาผู่เอ๋อร์ต้าอี้มีวางจัดหน่ายใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดฮอลล์ และท๊อป ซุปเปอร์มาร์เก็ตในเครือเซ็นทรัล อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลอีีสต์วีลล์ เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ เซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต และเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยา เป็นต้น
และตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ชาต้าอี้กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด หรือติดต่อสอบถามได้ที่
เว็บไซค์บริษัท www.taetea.co.th
เพจ Facebook : TAE TEA GROUR THAILAND
และที่เบอร์ 02-168-1088
บริษัท ชาต้าอี้กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย Mr. หลิว ซวิน กรรมการผู้จัดการบริษัท ได้นำชาผู่เอ๋อร์มาจัดแสดงและจัดให้ผู้มาร่วมงานได้ดื่ม
โดย บริษัท ชาต้าอี้กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายชาผู่เอ๋อร์ต้าอี้
ชาผู่เอ๋อร์ เป็นชาที่นำเข้ามาจาก สิบสองปันนา ประเทศจีน ชาผู่เอ๋อร์ ถือเป็นชาเพื่อสุขภาพ โดยการแบ่งประเภทชาผู่เอ๋อร์ จะมี ชาสุกและชาดิบ
เมื่อดื่มชาสุกผู่เอ๋อร์ เป็นประจำจะช่วยบำรุงในเรื่อง
1.ลดความดันโลหิต
การดื่มชาผู่เอ๋อร์ โดยเฉพาะดื่มหลังทานอาหาร เส้นใยอาหารและสารประเภทโมเลกุลใหญ่ในน้ำชาจะห่อหุ่มคอเลสเตอรอล และไขมันในอาหาร ปรับปริมาณคอเลสเตอรอลและไขมันในเส้นเลือด นอกจากนี้ยังลดความหนืดของเส้นเลือดด้วย
2.ลดไขมันในเส้นเลือด
ด้วยคุณสมบัติของสาร ที โพลีฟีนอล และเพกตินในใบชา ที่สามารถรวมตัวกับคอเลสเตอรอลและไขมันในลำไส้ จึงช่วยลดการดูดซึมได้ ทำให้ไขมันในเส้นเลือดและปริมาณไบล์ แอซิด ในลำไส้ลดลง
3.ลดปริมาณน้ำตาลในเลือด
คุณสมบัติที่หลากหลายของสารที โพลีฟีนอล ในชาสุกผู่เอ๋อร์ ที่สามารถรวมตัวกับน้ำตาลกลูโคส ช่วยลดอัตราการดูดซึมของกลูโคสทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้น
4.ปกป้องกระเพาะและลำไส้
- สารจุลินทรีย์เอนไซม์ ในชาสุก ช่วยลดการหลั่งของเพพซิน ในกระเพาะ
- สารที พอลิแซ็กคาไรค์ และสารโอลิโกแซ็กคาไรด์ ในชาสุกสามารถเพิ่มไบดิโดแบคทีเรีย และแล็กโทบาซิลลัสในลำไส้ช่วยในการดูดซึมของลำไส้ได้ดีขึ้น
5. บำรุงผิวหน้า
- สารเทียริรูบิจินส์ ในชาสุกผู่เอ๋อร์ สามารถขจัดอนุมูลอิสระและต่อต้านออกไซด์จึงช่วยชะลอความแก่ได้
- สารในชาสุก สามารถขับสารพิษในล้ำไส้ ลดการหลั่งของต่อมไขมัน ช่วยให้ผลลัพธ์ในการบำรุงผิวหน้า
- สารที โพลีฟีนอล ในชาสุกสามารถขจัดไขมันในผิวหน้า ลดอาการอักเสบและต่อต้านความหย่อนคล้อยของผิวหน้า
และเมื่อดื่มชาดิบผู่เอ๋อร์ เป็นประจำจะช่วยบำรุงเรื่อง
1.ต้านอนุมูลอิสระ ชาผู่เอ๋อร์ เลือกใช้เฉพาะใบชาสดขนาดใหญ่ ซึ่งมีสารที โพลีฟีนอล สูงเป็นสารที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
2.ต้านรังสี ชาดิบผู่เอ๋อร์ มีสารที่สามารถขจัดอนุมูลอิสระหลายอย่าง เช่น ทีโพลีฟีนอล พอลิแซ็กคาไรด์ และสารประเภทวิตามิน เป็นต้น จึงมีส่วนช่วยป้องกันรังสี Co-r ในระดับหนึ่งแต่ไม่สามารถส่งเสริมการฟื้นฟูหลังถูกรังสีได้
3.ต้านโรคมะเร็ง สารทีโพลีฟีนอล และสารพอลิแซ็กคาไรด์ ในใบชาผู่เอ๋อร์ มีคุณสมบัติดูดซึมรังสีบางชนิด ช่วยลดผลกระทบที่สารกัมมันตรังสี มีต่อเซลล์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สาร EGCG ในใบชายังสามารถระงับการเติบโตและการเคลื่อนที่ของเซลล์มะเร็งในร่างกายได้อีกด้วย ที่สำคัญชาผู่เอ๋อร์มีสารต่อต้านออกไซด์ในปริมาณสูง จึงช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจนลดอัตราที่เซลล์ธรรมดา จะกลายเป็นเซลล์มะเร็งลงได้
4.บำรุงสมองและระบบประสาท ในใบชาผู่เอ๋อร์มีสารทีอะมีน ช่วยให้ผ่อนคลาย และบำรุงประสาท นอกจากนี้ยังช่วยรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพด้านความจำและขีดความสามารถในการเรียนด้วย
5.ต้านเชื้อและไวรัส ด้วยคุณสมบัติของสารทีอะมีน ในใบชาผู่เอ๋อร์ ช่วยต่อต้านเชื้อและไวรัสได้หลากหลายและมีประสิทธิภาพสูง เช่น เชื้อไข้มาลาเรีย เชื้อไข้หวัดใหญ่ประเภท A และ B ไวรัสกระเพาะอักเสบ ไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น
โดยชาผู้เอ๋อร์มีวางจำหน่ายในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ เช่น รูปแบบชาแผ่น รูปแบบชากระป๋อง และรูปแบบชาซอง เป็นต้น เพื่อความสะดวกสบายของผู้ดื่ม
ในทุกเพศ ทุกวัย
ชาผู่เอ๋อร์ต้าอี้มีวางจัดหน่ายใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดฮอลล์ และท๊อป ซุปเปอร์มาร์เก็ตในเครือเซ็นทรัล อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลอีีสต์วีลล์ เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ เซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต และเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยา เป็นต้น
และตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ชาต้าอี้กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด หรือติดต่อสอบถามได้ที่
เว็บไซค์บริษัท www.taetea.co.th
เพจ Facebook : TAE TEA GROUR THAILAND
และที่เบอร์ 02-168-1088
วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป2) พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 แถลงผลการปราบปรามจับกุมเงินกู้นอกระบบ พร้อมของกลางจำนวนมาก
วันนี้ ( 25 พ.ค.61 ) เวลา 16.00 น.
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญต่อปัญหาหนี้นอกระบบของประชาชน เนื่องจากทีผ่านมาพบว่ากลุ่มนายทุนได้มีวิธีการเชิญชวน หรือยื่นข้อเสนอให้ประชาชนในการกู้ยืมเงินนอกระบบถึงหน้าบ้าน และ มีเงื่อนไขในการปล่อยกู้ที่ง่าย สะดวก จึงส่งผลให้ประชาชนหลงอยู่ในวังวนของขบวนการนายทุนหนี้นอกระบบไม่จบสิ้น จึงได้สั่งไปยังทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องให้รีบดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมาย และควบคุมกลุ่มนายทุน กลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างๆ ที่มีการปล่อยเงินกู้หนี้นอกระบบ โดยกำชับให้กำหนดมาตรการในการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงกว่ามาตรฐาน และเป็นการเอารัดเอาเปรียบ หรือใช้ความรุนแรงในการ ทวงหนี้ จนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการก่อเหตุอาชญากรรมได้ โดยหน้าที่หลักของตำรวจคือ กวาดล้าง จับกุม ปราบปราม ผู้กระทำผิดกฎหมาย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) ได้สั่งการให้มีการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน และแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบผู้มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายหนี้นอกระบบ เพื่อให้การปราบปรามเงินกู้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้ร่วมมือกับส่วนต่างบูรณาการกำลังในการกวาดล้างจับกุมโดยเริ่มคิกออฟปฏิบัติการกวาดล้างนายทุนหนี้นอกระบบพร้อมกันตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
ตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต รอง ผบช.ภ.1 ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 ระดมกำลังสืบสวนจับกุม ผลการดำเนินการ ดังนี้
ผลการจับกุมทั้งสิ้น 112 ราย เงินสด 109,106 บาท เงินในโพยและสมุดบัญชี 6,286,230 บาท ตรวจยึด รถจักรยานยนต์ จำนวน 6 คัน โทรศัพท์ 3 เครื่อง
ภาพ//ข้อมูล
*** แจ๊คพญามัง***
นสพ.เจาะเลนส์
วันนี้ ( 25 พ.ค.61 ) เวลา 16.00 น.
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญต่อปัญหาหนี้นอกระบบของประชาชน เนื่องจากทีผ่านมาพบว่ากลุ่มนายทุนได้มีวิธีการเชิญชวน หรือยื่นข้อเสนอให้ประชาชนในการกู้ยืมเงินนอกระบบถึงหน้าบ้าน และ มีเงื่อนไขในการปล่อยกู้ที่ง่าย สะดวก จึงส่งผลให้ประชาชนหลงอยู่ในวังวนของขบวนการนายทุนหนี้นอกระบบไม่จบสิ้น จึงได้สั่งไปยังทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องให้รีบดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมาย และควบคุมกลุ่มนายทุน กลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างๆ ที่มีการปล่อยเงินกู้หนี้นอกระบบ โดยกำชับให้กำหนดมาตรการในการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงกว่ามาตรฐาน และเป็นการเอารัดเอาเปรียบ หรือใช้ความรุนแรงในการ ทวงหนี้ จนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการก่อเหตุอาชญากรรมได้ โดยหน้าที่หลักของตำรวจคือ กวาดล้าง จับกุม ปราบปราม ผู้กระทำผิดกฎหมาย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) ได้สั่งการให้มีการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน และแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบผู้มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายหนี้นอกระบบ เพื่อให้การปราบปรามเงินกู้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้ร่วมมือกับส่วนต่างบูรณาการกำลังในการกวาดล้างจับกุมโดยเริ่มคิกออฟปฏิบัติการกวาดล้างนายทุนหนี้นอกระบบพร้อมกันตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
ตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต รอง ผบช.ภ.1 ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 ระดมกำลังสืบสวนจับกุม ผลการดำเนินการ ดังนี้
ผลการจับกุมทั้งสิ้น 112 ราย เงินสด 109,106 บาท เงินในโพยและสมุดบัญชี 6,286,230 บาท ตรวจยึด รถจักรยานยนต์ จำนวน 6 คัน โทรศัพท์ 3 เครื่อง
ภาพ//ข้อมูล
*** แจ๊คพญามัง***
นสพ.เจาะเลนส์
วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
จากกรณี นายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ นักธุรกิจด้านไอที แจ้งความดำเนินคดี กับ นางศิวพร เกตุสิงห์ กรณีร่วมลงทุนในตลาดยอดพิมาย โดยล่าสุดนั้น คู่กรณีทั้งสองฝ่าย ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจบางพลัด ว่าจะทำการถอนแจ้งความที่ฟ้องร้องกันไว้ โดย ทางนายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ได้แจ้งความประสงค์ที่จะถอนร้องการแจ้งความกับนาง ศิวพร ส่วนทางนาง ศิวพร ก็จะทำการถอนฟ้องที่ได้แจ้งไว้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงยอมความกันได้ จึงได้แจ้งมาทางสื่อมวลชนให้ช่วยชี้แจงและประชาสัมพันธ์
วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
หนุ่มดักตีหัว “บอล จิตรภาณุ” CH3 มอบตัวอ้างแค้นส่วนตัว
มอบตัวแล้ว!! หนุ่มดักทำร้าย "บอล จิตรภาณุ" ดาราช่อง 3 คาลานจอดรถ
ภายหลังจากที่นักแสดงหนุ่ม บอล จิตรภาณุ กลมแก้ว อายุ 27 ปี ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกาย โดยใช้หัวเข็มขัดตีที่ศีรษะ ภายในที่จอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านสยามสแควร์ เมื่อวานนี้ จนศีรษะแตก และบาดเจ็บตามร่างกาย ก่อนที่จะเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ล่าสุดชายที่อ้างตัวเป็นคนก่อเหตุ พร้อมกับญาติ ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลปทุมวันแล้ว หลังจากเมื่อคืนได้ติดต่อร้อยเวรเจ้าของคดี เพื่อมามอบตัว โดยยังไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุการลงมือแต่อย่างใด้
ส่วนด้าน พ.ต.อ. ภพธร จิตต์หมั่น ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ระบุว่า จากการสอบถาม ชายรายนี้ ยอมรับว่ามีปัญหาส่วนตัวกับนักแสดงหนุ่ม แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด ส่วนในวันเกิดเหตุ บังเอิญเห็นนักแสดงเดินผ่านมา จึงลงมือก่อเหตุ ที่ลานจอดรถ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน อยู่ระหว่างสอบปากคำชายที่ก่อเหตุ ภายในห้องสอบสวน และเบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ยังไม่เคยว่าพบประวัติการก่อเหตุแต่อย่างใด
“บอล จิตรภาณุ กลมแก้ว” เข้าสู่วงการจากการเป็น นายแบบ โฆษณา และโฆษณาที่ทำให้บอลรู้จักคือ โฆษณาทรู และต่อมาปี 2557 มีละครเรื่องแรก คือ ในม่านเมฆ รับบทเป็น ปลัดเกษตร ปี 2558 และมีละครหงส์ (เลือดมังกร) รับบทเป็น เฉินอี้เสียง (วัยหนุ่ม)c]tเรื่อง หนึ่งในทรวง รับบทเป็น หมอประสงค์ เรื่อง นางร้ายที่รัก รับบทเป็น หมวดศาสตรา และเรื่อง อีสาวอันตราย รับบทเป็น ศิระ และในปีนี้บอลได้มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกคือ ป้าแฮปปี้ she ท่าเยอะ รับบทเป็น ตุลย์ คู่กับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง เขมนิจ จามิกรณ์