เรียนผู้บังคับบัญชา
     สภ.ทรายขาว..รายงานการตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนิน "โครงการตำรวจบ้านเรา พิทักษ์ถิ่นเกิด" ของ ผบช.ภ.8 ณ สภ.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่

     วันที่ 31 ส.ค.61 เวลา 16.00 น. พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 พร้อมคณะ ได้แก่ พ.ต.อ.สมชาย สรรประเสริฐ รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.วันชัย หิรัญวัฒน์ ผกก.ฯ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการทำการของข้าราชการตำรวจ สภ.ทรายขาว ตลอดจนติดตามการดำเนิน "โครงการตำรวจบ้านเรา พิทักษ์ถิ่นเกิด"

     ผกก.สภ.ทรายขาว และข้าราชการตำรวจ รวมทั้งผู้นำในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ อาทิ นายณพรวิศิษย์ ผลเงาะ นายกเทศมนตรี ต.คลองพนพัฒนา, นายนุกูล งานดี นายกเทศมนตรี ต.คลองพน, นายสุทิน สุวรรณบำรุง รักษาการ นายกเทศมนตรี ต.ทรายขาว, นายอนุชา หลานเด็น กำนัน ต.ทรายขาว, ผู้แทนกำนัน ต.คลองพน, นายสราวุธ แสงวิสุทธิ์ ผญบ.ม.2(บ้านทรายขาว) และ นายสิทธิชัย บ่อม่วง ผญบ.ม.4(บ้านบ่อม่วง) ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ และผู้แทนผู้นำท้องที่-ท้องถิ่น ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริเวณหน้า สภ.ทรายขาว  

     และได้เข้าร่วมประชุม ณ ศปก.สภ.ทรายขาว ซึ่ง ผบช.ภ.8 ได้ขอบคุณทุกๆฝ่าย ทั้งข้าราชการตำรวจภายใต้การนำของ ผกก.สภ.ทรายขาว รวมทั้งผู้นำท้องที่-ท้องถิ่น โดยให้ความมั่นใจในการทำงานของ ผกก.สภ.ทรายขาว และเน้นย้ำการดำเนิน "โครงการตำรวจบ้านเรา พิทักษ์ถิ่นเกิด" โดยให้ตำรวจมุ่งมั่นทุ่มเทการทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง โดยขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่จะร่วมด้วยช่วยกัน และให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของ ตร.ด้วย เพราะอยู่ทั้งในฐานะของผู้ให้บริการและผู้บังคับใช้กฎหมายในเวลาเดียวกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใด ตำรวจต้องทำงานหนักเป็น 2 เท่า เพื่อก้าวไปสู่การเป็น "ตำรวจบ้านเรา พิทักษ์ถิ่นเกิด" เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รอดพ้นต่อปัญหาในมิติต่างๆของอาชญากรรมทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ สภ.ทรายขาว
     เพื่อโปรดทราบ
     พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์
     ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่

I WIND แจงก.ล.ต.-ตลาดทุน เหตุสอบผู้บริหารจัดซื้อผิดระเบียบ ลงนามเพียงผู้เดียว

  “หมอวิชัย” – “ศุภนันท์” ยื่นหนังสือ ก.ล.ต. -ตลท. และ IFEC ชี้แจงเหตุตั้งกรรมการสอบผู้บริหาร I WIND หลังพบความผิดปกติเรื่องการบริหารหนี้จนผิดนัดชำระธนาคารและลูกหนี้ รวมถึงการลงนามจัดซื้อเพียงคนเดียวซึ่งผิดกฎบริษัท

วันที่ 31 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นายแพทย์ วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ และ นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ ในฐานะกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ( I WIND) ส่งทนายความยื่นหนังสือถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค(IFEC) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งของบริษัท I WIND โดยระบุว่า ตรวจพบความผิดปกติในการบริหารงาน 4 ประเด็น

ประกอบด้วย 1.การจัดซื้อ จัดจ้างโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎระเบียบบริษัท มีการปกปิดข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญ เช่น เรื่อง การจัดซื้อแบตเตอรี่ โดยมีการลงนามในสัญญาจากผู้บริหารคนดังกล่าวเพียงคนเดียว ขัดต่ออำนาจกรรมการที่ลงนามผูกพันแทนบริษัทได้ซึ่งระเบียบบริษัทกำหนดให้ต้องมีกรรมการลงลายมือชื่อ 2 คน รวมทั้งยังตรวจพบอีกว่าเป็นการขออนุมัติการจัดซื้อย้อนหลังจากที่ผู้บริหารคนดังกล่าวลงนามไปแล้วด้วย
ประการที่ 2.ผู้บริหารคนเดียวกันไม่ลงนามในการชำระเงินประกันค่าก่อสร้างที่ค้างจ่าย จำนวนร้อยละ 10 ของค่าจ้างเป็นเหตุให้บริษัทและคณะกรรมการอาจถูกดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา 3.การมีปัญหาในการจัดจ้างบริษัทคู่สัญญาในการดำเนินการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA) และ4.ถูกธนาคารและเจ้าหนี้ ส่งหนังสือทวงถามการชำระหนี้และการผิดเงื่อนไขหลายประการ

“จากความผิดปกติดังกล่าว คณะกรรมการจึงมีมติให้ปรับย้ายตำแหน่งของผู้บริหารรายนี้ไปเป็นที่ปรึกษาของกรรมการบริษัทเป็นการชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที พร้อมทั้งเห็นควรว่าต้องเปิดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ ไม่ให้เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการต่อไป”นายวิชัย กล่าว
นายศุภนันท์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ยังเป็นกรรมการบริษัท อำนาจกรรมการในการลงนามของบริษัทต้องใช้กรรมการลงลายมือชื่อจำนวน 2 ใน 3 คนมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการโดยกำหนดให้ผู้บริหารI WIND คนดังกล่าวเป็นตัวยืนในการลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการอีกหนึ่งคน ทั้งที่ผู้บริหารคนดังกล่าวถือหุ้นน้อยกว่าบริษัท IFEC ฉะนั้นเพื่อความเป็นธรรมและการรักษาผลประโยชน์อันสูงสุดของบริษัท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นสำคัญ../

เรียนผู้บังคับบัญชา
     สภ.ทรายขาว..รายงานการตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด เพื่อการขับเคลื่อน "โครงการบ้านบ่อม่วงสีขาว(นำร่อง)ปลอดยาเสพติด" และดำเนินมาตรการตัดมือตัดเท้า ตามสั่งการของ ภ.8

     วันที่ 30 ส.ค.61 เวลา 13.30 - 14.30 น. ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์ ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่, พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ปากบารา รอง ผกก.ป.สภ.ทรายขาว, พ.ต.ต.สมบูรณ์ พูนสง สวป.สภ.ทรายขาว ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.นันทกร มัธยันต์ รอง สวป.สภ.ทรายขาว ร้อยเวร 20 พร้อมด้วยชุดสายตรวจรถยนต์, อส.ตร. รวม 4 นาย ร่วมกันตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด เพื่อกดดัน ตรวจค้นและจับกุมหากพบการกระทำผิดกฎหมาย บนถนนสายทรายขาว-บ่อม่วง เขตพื้นที่หมู่ 4 (บ้านบ่อม่วง) ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่

     ผลการปฏิบัติ ดังนี้...
- ตรวจค้นรถยนต์ 10 คัน
- ตรวจค้นรถจักรยานยนต์ 14 คัน
     ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
     พร้อมได้ทำการสุ่มตรวจปัสสาวะบุคคล จำนวน 9 ราย ด้วยชุดตรวจยาเสพติดเบื้องต้นชนิดเมทแอมเฟตามีนของสำนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งได้รับการสนับสนุนและอนุเคราะห์จากปลัดธวัช จงรักษ์ภูวนาถ ผอ.ปส.จ.กระบี่ .. ผลปรากฎว่า ไม่พบปัสสาวะมีผลบวก (ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย) แต่อย่างใด
     เพื่อโปรดทราบ
     พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์
     ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่

เรียนเชิญร่วมงานเทกระจาดประจำปี 60 ชมรมศรัทธาสาธุธรรม ระหว่างวันที่ 8-10 ก.ย.60 ณ.วัดดอกไม้ ถนนพระราม 3

 และเรียนเชิญร่วมบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง หรือจะเป็นปัจจัยเพื่อนำไปซื้อข้าวสารอาหารแห้ง และของใช้ในพิธีต่างๆ ท่านใดมีความประสงค์จะร่วมบริจาคสามารถติดต่อได้ที่

อาจารย์ปิติภาคย์ พันธ์มุสิกสกุล ( พี่ต่อ ) โทรสอบถามได้ที่ 099-4236545

บิ๊กโจ๊ก และชุดตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ ตรวจสอบ ข้อเท็จจริง ของ นศ อิซาเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ ที่เกาะเต่า

ตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง จากเหตุการณ์ นศ อิซาเบล วิคตอเรีย เบคเตอร์ นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ ร้องเรียนว่า ตกเป็นเหยื่อ ถูกวางยาลักทรัพย์ และล่วงละเมิดทางเพศ

 ขณะเช้า ไปเที่ยวสังสรรค์ที่บ้านแห่งหนึ่ง ในเกาะเต่า แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธ การแจ้งความ อ้างว่า ถูกข่มขืนทางพนักงานสอบสวน ได้สอบถามว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง ปรากฏว่า ไม่มีข้อมูลอะไรเลย เนื่องจากเป็นคำบอกเล่าของผู้เสียหาย ทั้งนี้หลังรับเรื่อง ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจเก็บกล้องวงจรปิด ในที่เกิดเหตุและใกล้เคียง เพื่อสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ แต่แล้วทางชุดสืบสวนได้รายงาน ผ่าน Application Line ว่ากล้องวงจรปิด ในที่เกิดเหตุ ไม่สามารถเก็บภาพได้ เนื่องจากย้อนไปได้ 7 วัน ทำให้ข้อมูล ลบ ไปแล้ว จึงขอข้อมูลเพิ่มเติม แต่ผู้เสียหาย ก็เงียบไปและ ไม่ติดต่อกลับมาอีกจนกระทั่ง เป็นข่าวที่ประเทศอังกฤษ และในเพจของ CSILA ส่วนเว็บไซต์ ที่นำเสนอข่าวบิดเบือน ข้อมูล เข้าข่าย ความผิด ตามพรบ คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษ จำคุก 5 ปี ซึ่งเบื้องต้น

 จากการตรวจสอบพบว่า 14 คน ที่ชมและแชร์วิจารณ์ สร้างความเสียหาย ให้กับประเทศด้านการท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยในวันพรุ่งนี้ จะเดินทางพบ กงสุลอังกฤษ ประจำ ประเทศไทย เพื่อชี้แจงข้อมูลให้ทราบต่อไป
(Cr)ผอ. จิ๋ว สังเกตข่าว รายงาน
ภาพจาก ยีน 191

เรียน  ผู้บังคับบัญชา
     สภ.ทรายขาว...รายงานการเป็นวิทยากรบรรยาย "โครงการกระบี่เมืองสีขาว" ปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด ชุมชนเข้มแข็ง

     วันที่ 29 ส.ค.61 ภ.จว.กระบี่ โดย พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผบก.ภ.จว.กระบี่ ได้จัดฝึกอบรม "โครงการกระบี่เมืองสีขาว" กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพชุมชน ในการเฝ้าระวังอาชญากรรมในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและชุมชนเมือง ประจำปีงบประมาณ 2561 เป็นการอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้าน ของ อ.เมืองกระบี่(เฉพาะพื้นที่รับผิดชอบ สภ.อ่าวนาง), อ.ลำทับ และ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จำนวน 120 คน เข้ารับการอบรมเป็นรุ่นที่ 3 ซึ่งกำหนดจัดการอบรมเป็น 3 รุ่น รวม 360 คน เพื่อสร้างเครือข่าย ร่วมด้วยช่วยกัน ทำให้กระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวสีขาว ปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด เป็นชุมชนที่เข้มแข็งยั่งยืน

     ผกก.สภ.ทรายขาว เป็นวิทยากรบรรยายแนวนโยบาย ผบช.ภ.8 "โครงการตำรวจบ้านเรา พิทักษ์ถิ่นเกิด" และนำเสนอการขับเคลื่อนโครงการบ้านบ่อม่วงสีขาว(นำร่อง)ปลอดยาเสพติด ซึ่ง ตร.สภ.ทรายขาว, นายสิทธิชัย บ่อม่วง ผญบ.บ้านบ่อม่วง ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ และประชาชนบ้านบ่อม่วง ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดำเนินการในพื้นที่บ้านบ่อม่วง ซึ่งเป็นหมู่บ้านสีแดงที่มีการแพร่ระบาดยาเสพติดขั้นรุนแรง เพื่อให้เป็นหมู่บ้านสีขาวปลอดยาเสพติด ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมอบรมเป็นอย่างมาก น่าเชื่อได้ว่า แนวทางโครงการนี้ จะเป็นแม่แบบเพื่อนำไปปรับใช้ในพื้นที่ต่างๆของ จ.กระบี่ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีและคลี่คลายปัญหายาเสพติดของ จ.กระบี่
     เพื่อโปรดทราบ
     พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์
     ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่

เรียน  ผู้บังคับบัญชา
     สภ.ทรายขาว..รายงานการปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัย พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ การขับเคลื่อนตาม 'โครงการบ้านบ่อม่วงสีขาว(นำร่อง)ปลอดยาเสพติด"

     วันที่ 28 ส.ค.61 ภายใต้อำนวยการและสั่งการของ พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์ ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ต.สมบูรณ์ พูนสงสวป.สภ.ทรายขาว, ร.ต.ต.สุทัศน์ นวลจันทร์ สว.(ป.), ร.ต.ต.ประคอง บริโท รอง สว.(ป.), ส.ต.ท.ธีรเมธ ปลอดอักษร ผบ.หมู่(ป.)สภ.ทรายขาว พร้อมด้วยเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง นำโดยนายอนุชา หลานเด็น กำนัน ต.ทรายขาว, นายห้าหริ้ม จงรักษ์ ผู้ช่วย ผญบ.หมู่ 4 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ร่วมกันจับกุม...
     น.ส.ร้อดีย๊ะ ละงู อายุ 38  ปี (เกิดวันที่ 13 ต.ค.22) อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.4 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่

     ได้พร้อมด้วยของกลาง...
ใบพืชกระท่อมสด ใส่อยู่ในถุงพลาสติกใสแบบมีหูหิ้ว จำนวน 1 ถุง น้ำหุนักประมาณ 100 กรัม วางอยู่ข้างตัวผู้ต้องหาขณะตรวจค้นจับกุม
     สถานที่จับกุม/เกิดเหตุ...
บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ ม.4 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่
     วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม...  
วันที่ 28 ส.ค.61 เวลาประมาณ  11.00 น.

     ต่อมา...ได้ร่วมกันจับกุม
     นายเจษฎาภรณ์ หลานเพ็ง อายุ 28  ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 4  ต.ทรายขาว  อ.คลองท่อม จ.กระบี่
     พร้อมด้วยพยานหลักฐานเอกสารและของกลางดังนี้...
     1.ใบรายงานผลการตรวจปัสสาวะ ซึ่งออกให้โดยโรงพยาบาลวังวิเศษ  จังหวัดตรัง จำนวน 1 ใบ
     2.ตัวอย่างปัสสาวะ(ของนายเจษฎาภรณ์ หลานเพ็ง) จำนวน 1 ขวด
     3.ต้นพืชกระท่อม ลำต้น ก้าน ใบ ราก จำนวน 3 ต้น น้ำหนัก 1 กก.
     พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า..ผลิตและมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย
     สถานที่จับกุม...
บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 114 ม.4 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ และ สภ.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่
     วัน/เดือน/ปี ที่จับกุม...
วันที่ 28 มี.ค.61 เวลาประมาณ 12.50 น. และเวลาประมาณ 16.00 น.
     เพื่อโปรดทราบ
     พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์
     ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่

"คนไทยไม่ทิ้งกัน-กอ.รมน.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์!! และ "มูลนิธิพระราหู โครงการ ใจถึงใจ"แบ่งปันน้ำใจ ให้ผู้ป่วยติดเตียง!!

เมื่อวันที่( ๒๘ ส.ค.๖๑ )เวลา ๑๑.๔๐ น.
พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รองผอ.รมน.จังหวัด ป.ข.ได้เข้าพบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพที่ได้รับการสนับสนุนจาก"มูลนิธิพระราหู โครงการใจถึงใจ" โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษาบริษัทรักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัด มอบให้กับ นายรุ่ง ชื่นปรีดา อาศัยอยู่บ้านย่านซื่อ
ต.อ่าวน้อย อ.เมืองจ.ประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งเป็นคนไข้ติดเตียงป่วยเป็นอัมพาตช่วงล่าง สาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุจากการทำงานตกจากที่สูง มีรายได้จากเงินช่วยเหลือผู้พิการ อาศัยอยู่กับมารดาสูงอายุยากจนแขนซ้ายพิการและพี่สาวอาชีพรับจ้าง นายรุ่ง มีความประสงค์จะขอรับรถเข็นวิลแชร์ ไว้สำหรับนั่ง เนื่องจากรถเข็นที่มีอยู่สภาพชำรุดเก่าเป็นสนิม กอ.รมน.จังหวัด ป.ข. จะประสาน ขอรับสนับสนุนจากผู้ใจบุญให้ต่อไป!!

ผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC ยื่นหนังสือถึงก.ล.ต.ทวงถามความคืบหน้าจัดการผู้ถือหุ้นรายใหญ่ซื้อขายหุ้นผิดกฎหมาย หวังยึดกิจการIFEC แบบผิดกฎหมาย โดยขอให้อายัดหุ้นไว้ตรวจสอบก่อน และเร่งดำเนินการตามแนวทางของศาลอาญาที่ได้ประทับรับฟ้องคดีครอบงำกิจการไว้แล้ว

วันที่ 28 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก ผู้ถือหุ้นบริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค(IFEC) เข้ายื่นหนังสือถึง เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ทวงถามความคืบหน้าข้อร้องเรียนที่เคยร้องมาหลายครั้งแล้ว เพื่อขอให้ก.ล.ต.ดำเนินการกับผู้ถือหุ้นใหญ่IFECคนหนึ่ง หลังพบพฤติกรรมกรรมที่เข้าข่ายการกระทำผิดร่วมกับอดีตผู้บริหารIFECบางคน ในการได้มาซึ่งหุ้นของIFECแบบผิดกฎหมายเข้าข่ายการครอบงำ(ยึด)กิจการ

ซึ่งในหนังสือทวงถามความคืบหน้าที่ส่งถึงก.ล.ต.ระบุว่าได้รับทราบข้อมูลจากบริษัทIFEC ว่า อดีตผู้บริหารIFEC 2 คนได้นำหุ้นไปขายต่อแก่ผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวจำนวน 30 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5.10 บาท คิดเป็นเงิน 153 ล้านบาท โดยมีข้อตกลงว่าอดีตผู้บริหารIFECคนแรกจะซื้อหุ้นคืนในราคา 6 บาท คิดเป็นเงิน 180 ล้านบาท

ขณะที่อดีตผู้บริหาร IFEC คนที่สองยินยอมประกันราคาซื้อคืนไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 5.50 บาท ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนของผู้ถือหุ้นใหญ่IFEC คนดังกล่าว ว่าได้ซื้อหุ้นมาจากผู้ถือหุ้นบางรายจำนวน 30 ล้านหุ้น โดยการซื้อขายหุ้นไปมาครั้งนี้ มีพฤติกรรมเพื่อให้ผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวเข้ามาครอบงำ (ยึด)กิจการIFEC แต่ไม่ได้รายงานผลการซื้อขายหุ้นซึ่งเข้าข่ายการครอบงำ(ยึด)กิจการตามที่กฎหมายกำหนด  ส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นรายอื่นและขัดต่อพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ดังนั้น จึงได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ก.ล.ต.ในฐานะผู้กำกับดูแลตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ตรวจสอบและดำเนินการกับผู้กระทำผิด แต่ที่ผ่านมาก.ล.ต.ยังคงนิ่งเฉยไม่ดำเนินการใดๆทั้งที่ทวงถามมาโดยตลอด

ในฐานะผู้ถือหุ้นและตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยIFEC จึงขอเรียกร้องให้ก.ล.ต.ชี้แจงต่อข้อร้องเรียนเรื่องการครอบงำ(ยึด)กิจการแบบผิดกฎหมายของผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าว พร้อมขอให้ระงับการใช้สิทธิใดๆในฐานะผู้ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวและพวกไว้ก่อน เพราะถือเป็นหุ้นที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย(หุ้นเถื่อน) และขอให้ก.ล.ต.เร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทIFEC และผู้ถือหุ้นIFEC

“ที่ผ่านมาศาลอาญาได้ประทับรับฟ้องคดีที่ผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวถูกIFEC ยื่นฟ้องเรื่องครอบงำ(ยึด)กิจการแบบผิดกฎหมายแล้ว หลังไตร่สวนมูลฟ้องแล้วพบมูลความผิดจริงตามที่ฟ้อง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ก.ล.ต.กลับยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆเลย แม้จะเคยร้องขอไปแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะการอายัดหุ้นไว้ตรวจสอบตามแนวทางเดียวกับที่ศาลพิจารณา” ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ถือหุ้นกล่าว

 เรียน ผู้บังคับบัญชา
     สภ.ทรายขาว..รายงานการตั้งจุดตรวจ หน้า สภ.ทรายขาว ม.2 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่

      วันที่ 27 ส.ค.61 เวลา 09.00 - 11.00 น.ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์ ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่, พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ปากบารา รอง ผกก.ป.สภ.ทรายขาว, พ.ต.ต.สมบูรณ์ พูนสง สวป.สภ.ทรายขาว ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.วิโรจน์ โรจน์พัฒนสุข รอง สวป.สภ.ทรายขาว, ร.ต.อ.ศุภกฤต แก้วกระจกสวัสดิ์ รอง สวป.ฯ พร้อมด้วยสายตรวจ จร., จนท.เปรียบเทียบปรับ รวม 7 นาย ร่วมกันตั้งจุดตรวจหน้า สภ.ทรายขาว ม.2 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ตามแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรม เกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ, พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ และ มาตรการตัดมือตัดเท้าและกวดขันวินัยจราจร ตามโครงการขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 %

     ผลการปฏิบัติ จับกุมผู้กระทำผิด ดังนี้...
-ไม่มีใบอนุญาตขับรถแสดงให้ตรวจสอบได้ทันทีขณะขับขี่ 2 ราย
-ขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ 1 ราย
-ใช้รถไม่เสียภาษีประจำปีภายในกำหนด 4 ราย
-ใช้รถไม่ติดแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี 1 ราย
-ใช้รถไม่ติดแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี 1 ราย
-ใช้รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 ราย
-ขับรถบรรทุกสิ่งของไม่ปกคลุม 1 ราย
-ขับขี่ไม่สวมหมวกนิรภ้ย 1 ราย
     รวมจับกุมดำเนินคดี 11 ราย  
     เพื่อโปรดทราบ
     พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์
     ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่

เรียนผู้บังคับบัญชา
     สภ.ทรายขาว...รายงานการตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด เพื่อการขับเคลื่อน "โครงการบ้านบ่อม่วงสีขาว(นำร่อง)ปลอดยาเสพติด" และดำเนินมาตรการตัดมือตัดเท้า ตามสั่งการของ ภ.8

     วันที่ 26 ส.ค.61 เวลา 13.30-14.30 น. ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์ ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่, พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ปากบารา รอง ผกก.ป.สภ.ทรายขาว, พ.ต.ต.สมบูรณ์ พูนสง สวป.สภ.ทรายขาว ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.นันทกร มัธยันต์ รอง สวป.สภ.ทรายขาว ร้อยเวร 20 พร้อมด้วยชุดสายตรวจรถยนต์, อส.ตร. รวม 4 นาย ร่วมกันตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด เพื่อกดดัน ตรวจค้นและจับกุมหากพบการกระทำผิดกฎหมาย บนถนนสายทรายขาว-บ่อม่วง เขตพื้นที่หมู่ 4 (บ้านบ่อม่วง) ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่

     ผลการปฏิบัติ ดังนี้...
- ตรวจค้นรถยนต์ 9 คัน
- ตรวจค้นรถจักรยานยนต์ 11 คัน
     ผลปรากฎว่า ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
     พร้อมได้ทำการสุ่มตรวจปัสสาวะบุคคล จำนวน 7 ราย ด้วยชุดตรวจยาเสพติดเบื้องต้นชนิดเมทเอมแฟตามีนของสำนักงาน ป.ป.ส. ผลปรากฎว่าไม่พบปัสสาวะมีผลบวก(ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย) แต่อย่างใด  
     เพื่อโปรดทราบ
     พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์
     ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่

เรียน ผู้บังคับบัญชา
     สภ.ทรายขาว..รายงานการร่วมต้อนรับคณะเทศบาลเมืองทุ่งสง และเป็นวิทยากรบรรยายตามแนวทาง "โครงการบ้านบ่อม่วงสีขาว(นำร่อง)ปลอดยาเสพติด"

     วันที่ 25 ส.ค.61 เวลา 09.00 - 12.00 น. พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์ ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิโรจน์ โรจน์พัฒนสุข ปฏิบัติราชการ รอง สวป.สภ.ทรายขาว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ, นายอนุชา หลานเด็น กำนันตำบลทรายขาว, คณะผู้แทน/แม่บ้านของ ม.1 บ้านห้วยลึก และผู้แทนเทศบาล ต.ทรายขาว

     ร่วมต้อนรับคณะจากเทศบาลเมืองทุ่งสง ซึ่งนำโดยนางอุไรวรรณ คำนวนกิจ นักพัฒนาชุมชนชำนาญการ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองทุ่งสง นศ. และนายประภาส ชูภักดี ประธานเครือข่ายสมัชชาพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดภาคประชาชนเมืองทุ่งสง พร้อมคณะองค์กรแม่บ้าน/สตรีเทศบาลเมืองทุ่งสง จำนวน 60 คน ซึ่งเดินทางมาศึกษาดูงาน ณ มัสยิดบ้านห้วยลึก ม.1 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่    

     ผกก.สภ.ทรายขาว เป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามแนวทาง "โครงการบ้านบ่อม่วงสีขาว(นำร่อง)ปลอดยาเสพติด" ซึ่งเป็นความประสงค์ของคณะจากเทศบาลเมืองทุ่งสงที่ขอรับฟังการบรรยายโครงการฯ เพื่อนำแนวทางดังกล่าวไปบูรณาการปรับใช้ในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ต่อพื้นที่ทุ่งสงให้มากที่สุุด ซึ่งมีผู้แทนข้าราชการตำรวจจาก สภ.จุฬาภรณ์ นศ.เข้าร่วมรับฟังด้วย หลังจากนั้นได้ถ่ายภาพร่วมกันด้านหน้ามัสยิดบ้านห้วยลึก
     เพื่อโปรดทราบ
     พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์
     ผกก.สภ.ทรายขาว จ.กระบี่

สตม.เข้ม! ขานรับศุลกากรสกัดหิ้วแบรนด์เนมหนีภาษีสนามบิน

พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะรองโฆษก สตม.เผยว่า พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม.ได้สั่งการ พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 กรณี ให้ จนท.ตม.ด่าน ตม.สนามบินทุกแห่ง เพิ่มความเข้มการตรวจคัดกรองคนเข้าหรือออกนอกประเทศ โดยให้ความร่วมมือกับศุลกากร ประจำด่านศุลกากรสนามบินทุกแห่ง กรณี ที่ทางรัฐบาล ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับมาตรการป้องกันปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าและหลบเลี่ยงภาษีรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะข่าวกรณีกลุ่มผู้ค้าที่รับจ้างหิ้วสินค้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศเข้ามาขายผ่านทางออนไลน์ หรือ พรีออร์เดอร์ อย่างครึกโครม โดยเฉพาะ ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ดอนเมือง 

โดย กรณีดังกล่าว พ.ต.อ.เชิงรณฯ เผยว่า พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ฯ ได้สั่งเพิ่มความเข้ม และขานรับ การปฏิบัติร่วมกับ ด่านศุลกากรสนามบินทุกแห่ง อย่างเต็มที่ มาโดยตลอด 

ทั้งนี้ ในส่วนของ จนท.ตม.สนามบิน จะมีหน้าที่ตรวจคัดกรองเฉพาะบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ตาม กฏหมายคนเข้าเมือง

ส่วน จนท.ศุลกากร สนามบิน จะเป็นหน่วยรับผิดชอบเกี่ยวกับการตรวจสินค้า สิ่งของสัมภาระต่างๆ เพื่อการดำเนินการทางภาษี ตามกฏหมายศุลกากร 

ซึ่งแม้จะเป็นคนละหน่วยงาน และรับผิดชอบงาน คนละส่วนกัน แต่ต้องยอมรับว่า มีกระบวนการทำงาน ที่เกี่ยวเนื่องกัน แบบ Passenger flow จึงต้องมีการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานเป็นอย่างดีและต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา ไม่พบปัญหาในการประสานการปฏิบัติแต่อย่างใด 

โดย ตม.สนามบิน พร้อมสนับสนุน หากทางศุลกากร ต้องการให้ ตม.ตรวจสอบตัวบุคคลโดยเฉพาะ ผู้ค้าพรีออร์เดอร์ ที่มักเดินทางไปประเทศเดิมๆ อย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง ฝรั่งเศส อย่างเต็มที่ ตามที่ได้รับการประสานความร่วมมือกับทางศุลกากรในแต่ละกรณีต่อไป

ซึ่งการสนับสนุนการปฏิบัติให้กับกรมศุลกากรในเรื่องดังกล่าว ยังครอบคลุมถึงการป้องกันปราบปรามการลักลอบนำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดตามที่เป็นข่าวตามนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ด้วย 

นอกจากนั้น พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ฯ ยังสั่งกำชับ ห้าม จนท.ตม.ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิดทุกรูปแบบ โดยเด็ดขาด!! หากพบ จะดำเนินการทางวินัย และทางอาญา โดยเด็ดขาดทุกรายไป ซึ่งมาตรการนี้ได้ดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่องมาโดยตลอด

ขอขอบคุณ ภาพ/ ข่าว จาก
พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.

📍งานป้องกันปราบปราม สน.เพชรเกษม 📍

     1. สน.เพชรเกษมภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.วัชรพัฒน์ เรืองอัครนนท์ รองผกก.ปป.ฯ โดย พ.ต.ต.กิตติ พัฒนพงษ์ พร้อมชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามที่  1
 2. ขอรายงานผลการยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย รายละเอียดดังนี้
 3. ของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น MIO สีน้ำเงิน กลน 160 มหาสารคาม

4. สถานที่ตรวจพบ ปากทางซอยนาคเพชรภู 1 แขวงบางแค เขตบางแค กทมฯ โดยได้แจ้งรถหายไว้ที่สน.แสมดำ วันที่ 16 สิงหาคม 2561 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าพนักงานชุดตรวจยึดจึงนำรถของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษมเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปทั้งนี้ได้นำรถของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษมลงปจว.ข้อ 4 วันที่ 25 สิงหาคม 2561  2551 เวลา 14.05 น.