"การรถไฟฯ!!ร่วมแก้ปัญหาลดปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สั่งให้ชะลอการซ่อมแซมรถโดยสารในโรงงานมักกะสัน!!
********************************
การรถไฟฯ ร่วมแก้ปัญหาลดปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สั่งชะลอการซ่อมแซมรถโดยสารในโรงงานมักกะสันออกไปก่อน และเตรียมหารือร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อปรับหาวิธีการซ่อมแซมสภาพตัวรถให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ผศ.ดร.ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละอองในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเกินค่ามาตรฐานอย่างเต็มที่ โดยได้สั่งให้บริษัทเอกชนที่ได้รับว่าจ้างจากการรถไฟฯ ให้เข้ามาปรับปรุงสภาพภายนอกของรถโดยสาร ในโรงงานมักกะสัน ชะลอการซ่อมรถโดยสารดังกล่าวในช่วงที่เกิดปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลออกไปก่อนขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ยังเตรียมร่วมหารือกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อปรับหาวิธีการซ่อมแซมสภาพตัวรถใหม่ ที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชนข้างเคียงและสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดอีกด้วย
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้สั่งการให้บริษัทเอกชน ชะลอการซ่อมแซมรถโดยสารที่โรงงานมักกะสันเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังสนับสนุนให้การเดินรถของการรถไฟฯ เป็นการเดินรถไฟแบบสีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการเผาไหม้จากเชื้อเพลิงในระยะยาว ด้วยการมอบหมายให้ฝ่ายการช่างกลของการรถไฟฯ พัฒนาระบบรถพาวเวอร์คาร์ขึ้นมาใช้งาน โดยใช้พลังงานจากรถพาวเวอร์คาร์
เพียงคันเดียวในการจ่ายไฟไปใช้ในขบวนรถโดยสารทั้งขบวน ซึ่งทำให้สามารถประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนยังรับนโยบายจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการนำน้ำมันบี 20 มาทดสอบใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเดินรถขบวนรถโดยสาร เพื่อลดปัญหาการปล่อยมลพิษ แก้ปัญหาการเกิดฝุ่นละอองในอากาศให้ลดลง และคาดว่าจะเริ่มทดสอบนำมาวิ่งเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ด้วย
ผศ.ดร.ศิริพงศ์ฯ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีการเผยแพร่ภาพที่บริเวณโรงงานมักกะสัน โดยมีช่างกำลังดำเนินการซ่อมแซมรถโดยสาร โดยใช้แก๊สเผาสีด้านนอกจนเกิดควัน และเกรงว่าจะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมนั้นขอชี้แจงว่า เป็นภาพของช่างซ่อมจากบริษัทเอกชนที่การรถไฟฯ มีการว่าจ้างมาปรับปรุงสภาพภายนอกของรถโดยสารให้มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการซ่อมวาระหนักของรถโดยสารประเภทเหล็กธรรมดา ด้วยการลอกสีโป๊วเดิมออกให้ถึงเนื้อเหล็ก ซึ่งตามขั้นตอนจะมีการให้ความร้อนบริเวณผิวบางส่วนที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเผาไหม้หมดทั้งคัน ซึ่งอาจจะมีการเกิดควันขึ้นบ้างเล็กน้อย
“ที่ผ่านมาการเปิดให้โรงงานมักกะสันซ่อมวาระหนักของรถโดยสารประเภทเหล็กธรรมดา จะมีการเปิดซ่อมรอบหนึ่งต่อ 4 ปี และทำการซ่อมเฉพาะช่วงที่มีสัญญาซ่อมเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีปริมาณการซ่อมแซมปริมาณที่มาก เพราะเฉลี่ยแล้ว เดือนหนึ่งมีการซ่อมแซมไม่ถึงสิบคัน โดยเฉลี่ยคันหนึ่งจะใช้เวลาลอกสีประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น และรถโดยสารบางส่วนก็มีการกระจายนำไปซ่อมแซมตามโรงงานต่างจังหวัดอื่นๆ อีกด้วย”
https://www.facebook.com/129946050353608/posts/2509544529060403?sfns=cl
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น