มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินสายฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย
หลังน้ำลดต่อเนื่อง " ให้ชาวยโสธร"
วันนี้ (วันอังคารที่ 24 กันยายน 2562) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ รักษาการผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จัดทีมสังคมสงเคราะห์
ออกแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ต.หนองคู อ.เมือง ต.สไมย์ อ.เมือง และ อ.เมือง จ.ยโสธร จำนวน 1,000 ชุด ในโครงการ "ฟื้นฟูหลังน้ำลด" พร้อมมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต 9 รายๆละ จำนวน 20,000 บาท รวมงบประมาณเป็นเงินจำนวน 530,000 บาท โดยมี มูลนิธิรวมสามัคคียโสธร จ.ยโสธร เป็นผู้ประสานงานให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ร่วมในพิธี โครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานรวม 9 จังหวัด คิดมูลค่าเป็นเงินกว่า 6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน)
เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมกู้ชีพ กู้ภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา และน้ำมันพืช บรรจุลงในถุงผ้ามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อื ฝ่ายสังคมสงเคราะห์
## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
.
#ติดต่อ-สอบถาม#ทีมงานสื่อสารองค์กร📱
086-854-1418📲
☎ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2562
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด
วันที่ 23 กันยายน 62 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ รักษาการผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จัดทีมสังคมสงเคราะห์ เดินสายมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ในโครงการ "ฟื้นฟูหลังน้ำลด" แก่ผู้ประสบอุทกภัย ต.เชียงขวัญ และ ต.ในเมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยวานนี้ มูลนิธิฯ ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัย ต.สะอาด และ ต.ดอนโอง จ.ร้อยเอ็ด รวมเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 2,800 ชุด พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพจำนวน 6 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 1,100,000บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน) โดยมีมูลนิธิร้อยเอ็ดการกุศล เป็นผู้ประสานงานให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ร่วมในพิธี
และในวันพรุ่งนี้ มูลนิธิฯ กำหนดมอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดยโสธร โดยมีมูลนิธิรวมสามัคคียโสธร เป็นผู้ประสานงานให้ความช่วยเหลือในพื้นที่
โครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานรวม 9 จังหวัด คิดมูลค่าเป็นเงินกว่า 6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน)
วันที่ 23 กันยายน 62 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ รักษาการผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จัดทีมสังคมสงเคราะห์ เดินสายมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ในโครงการ "ฟื้นฟูหลังน้ำลด" แก่ผู้ประสบอุทกภัย ต.เชียงขวัญ และ ต.ในเมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยวานนี้ มูลนิธิฯ ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัย ต.สะอาด และ ต.ดอนโอง จ.ร้อยเอ็ด รวมเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 2,800 ชุด พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพจำนวน 6 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 1,100,000บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน) โดยมีมูลนิธิร้อยเอ็ดการกุศล เป็นผู้ประสานงานให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ร่วมในพิธี
และในวันพรุ่งนี้ มูลนิธิฯ กำหนดมอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดยโสธร โดยมีมูลนิธิรวมสามัคคียโสธร เป็นผู้ประสานงานให้ความช่วยเหลือในพื้นที่
โครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานรวม 9 จังหวัด คิดมูลค่าเป็นเงินกว่า 6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน)
วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2562
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตาหลังเกิดภัย ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด แจกเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตในพื้นที่ประสบอุทกภัย จังหวัดภาคกลาง
วันนี้ (วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 62) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยนายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและรองเลขาธิการ และทีมสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา และน้ำมันพืช บรรจุลงในถุงผ้ามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในโครงการ "ฟื้นฟูหลังน้ำลด" ออกแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.คีรีมาศ อ.เมืองสุโขทัย และ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย รวม 1,000 ชุด โดยมีมูลนิธิร่วมมิตรสุโขทัย เป็นผู้ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการร่วมในพิธี
และในวันพรุ่งนี้ (16 กันยายน 62) มูลนิธิฯ กำหนดแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 1,000 ชุด พร้อมมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยจำนวน 2 รายๆ ละ 20,000 บาท (สองหมื่นบาท) โดยมี มูลนิธิประสาทบุญสถาน จ.พิษณุโลก เป็นผู้ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ . โครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัย ระหว่างวันที่ 14-16 ก.ย. 62 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคกลางรวม 3 จังหวัด ได้แก่ จ.พิจิตร สุโขทัย และพิษณุโลก และกำลังอยู่ระหว่างประสานงานกับมูลนิธิประจำจังหวัดในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคอีสาน 6 จังหวัด รวมการดำเนินการโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานรวม 9 จังหวัด คิดมูลค่าเป็นเงินกว่า 6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน)
เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมกู้ชีพ กู้ภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## . #ติดต่อ-สอบถาม#ทีมงานสื่อสารองค์กร📱 086-854-1418📲 ☎ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
วันนี้ (วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 62) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยนายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและรองเลขาธิการ และทีมสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา และน้ำมันพืช บรรจุลงในถุงผ้ามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในโครงการ "ฟื้นฟูหลังน้ำลด" ออกแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.คีรีมาศ อ.เมืองสุโขทัย และ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย รวม 1,000 ชุด โดยมีมูลนิธิร่วมมิตรสุโขทัย เป็นผู้ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการร่วมในพิธี
และในวันพรุ่งนี้ (16 กันยายน 62) มูลนิธิฯ กำหนดแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 1,000 ชุด พร้อมมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยจำนวน 2 รายๆ ละ 20,000 บาท (สองหมื่นบาท) โดยมี มูลนิธิประสาทบุญสถาน จ.พิษณุโลก เป็นผู้ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ . โครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัย ระหว่างวันที่ 14-16 ก.ย. 62 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคกลางรวม 3 จังหวัด ได้แก่ จ.พิจิตร สุโขทัย และพิษณุโลก และกำลังอยู่ระหว่างประสานงานกับมูลนิธิประจำจังหวัดในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคอีสาน 6 จังหวัด รวมการดำเนินการโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานรวม 9 จังหวัด คิดมูลค่าเป็นเงินกว่า 6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน)
เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมกู้ชีพ กู้ภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## . #ติดต่อ-สอบถาม#ทีมงานสื่อสารองค์กร📱 086-854-1418📲 ☎ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
สิ้นอีกหนึ่งคนดีบุรีรัมย์ วีรบุรุษน้ำท่วมอุบลฯ
สดุดีความกล้า นาย ดำรงศักดิ์ เจียดประโคน (สท.โต้ง) อายุ 34 ปี อาศาสมัครกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์
ในนามรหัส จรรยา 802 เป็นชาวอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดอุบลฯ ทางมูลนิธิสว่างจรรยาฯบุรีรัมย์ได้ส่งกำลังพล ทีมช่วยเหลือเบื้องต้น ทีมโต้ตอบภัยพิบัติทางน้ำ พร้อมทั้งเครื่องอุปโภค บริโภค ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปยังจ.อุบลฯ หนึ่งในนั้นก็มีทางด้านนาย ดำรงศักดิ์ เจียดประโคน ร่วมเดินทางไปด้วย ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงก็ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ทำได้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจเบื้องต้น จึงได้เดินทางกลับ พอเดินทางมาถึงรู้สึกไม่สบายตัว จึงได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนบุรีรัมย์ แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงได้ย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์(รัฐ) ด้วยอาการ ปอดติดเชื้อขั้นรุนแรง แต่ทว่าอาการไม่ดีขึ้น จนกระทั้ง เมือเวลา 05:20 น. นาย ดำรงศักดิ์ เจียดประโคน ได้จากไปอย่างสงบ ญาติเเละเพื่อนกู้ภัยสว่างจรรยาฯจึงนำร่างมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
ในนามรหัส จรรยา 802 เป็นชาวอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดอุบลฯ ทางมูลนิธิสว่างจรรยาฯบุรีรัมย์ได้ส่งกำลังพล ทีมช่วยเหลือเบื้องต้น ทีมโต้ตอบภัยพิบัติทางน้ำ พร้อมทั้งเครื่องอุปโภค บริโภค ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปยังจ.อุบลฯ หนึ่งในนั้นก็มีทางด้านนาย ดำรงศักดิ์ เจียดประโคน ร่วมเดินทางไปด้วย ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงก็ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ทำได้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจเบื้องต้น จึงได้เดินทางกลับ พอเดินทางมาถึงรู้สึกไม่สบายตัว จึงได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนบุรีรัมย์ แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงได้ย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์(รัฐ) ด้วยอาการ ปอดติดเชื้อขั้นรุนแรง แต่ทว่าอาการไม่ดีขึ้น จนกระทั้ง เมือเวลา 05:20 น. นาย ดำรงศักดิ์ เจียดประโคน ได้จากไปอย่างสงบ ญาติเเละเพื่อนกู้ภัยสว่างจรรยาฯจึงนำร่างมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562
เจ้าของโรงงานสื่อการเรียนการสอนร้องสื่อเป็นเกาะ!!เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนหลังพบว่าที่ สภ.บางใหญ่มีผู้จัดการ สภ.หรือเจ้าแม่สภ.นั้นเอง
วันที่11ก.ย.2562 ที่สภ.บางใหญ่จังหวัดนนทบุรีเวลา 14:00 น นางสาวพัชร์สิตา เจ้าของโรงงานธุรกิจสื่อการเรียนการการสอนเดินทางมาที่ สภ.บางใหญ่จังหวัดนนทบุรีหลังจากได้รับหมายจับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ ให้เธอมาพบและรับทราบข้อกล่าวหา ทั้งที่เธอแจ้งความหาว่ามีคนบุกทวงถามหนี้ข่มขู่ทวงหนี้ที่โรงงานเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมาโดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจนแต่ตำรวจไม่สามารถที่จะจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ น้ำซ้ำผู้ที่บุกรุกกับแจ้งความดำเนินคดีกับเธอในข้อหาฉ้อโกง คดีไวปานจรวด วันนี้เธอจึงมาหาผู้กำกับ สภ.บางใหญ่ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงว่าเหตุใดคดีเธอถึงไม่มีความคืบหน้า โดยจะแจ้งนัดหมายกับสื่อมวลชนว่าจะมีการแถลงข่าวเพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนอีกทั้งให้สื่อมวลชนมาเป็นพยานในการมาที่สถานีตำรวจในครั้งนี้เพราะตนเองเชื่อว่าหากมาคนเดียวเพียงลำพังอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะที่สถานีตำรวจบางใหญ่ มีเจ้าแม่หรือผู้จัดการ สภ. ซึ่งระว่างที่เธอได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร้องขอความเป็นธรรมในฐานะประชาชนคนธรรมดา ก็มีเมียกำนันคนเก่งที่เธอบอกว่าเป็นผู้จัดการได้เดินทางมาที่ สภ.บางใหญ่พร้อมกับหญิงสาวอีก 1 คนโดยเดินเข้าในห้องพนักงานสอบสวน
ตามที่เธอได้พูดกับสื่อมวลชนไม่มีผิดว่าที่นี่มีผู้จัด สภ.ขนาดผู้กำกับยังสั่งลูกน้องตัวเองไม่ได้ เธอเคยขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน โดยก่อนหน้านี้ได้แจ้งกับผู้กำกับไป 1 ครั้งแล้วผู้กำกับรับปากว่าจะเปลี่ยนแปลงให้ แต่ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของหัวหน้าพนักงานสอบสวนพันตำรวจโทยศอัศวิน ซึ่งเธอบอกว่าหัวหน้าพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวทำตัวไม่เป็นกลาง มีการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ในวันเดียวกัน และออกหมายจับในวันถัดมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็แสดงให้เห็นว่าพนักงานสอบสวนรีบเร่งรัดคดีและทำงานไม่ถูกระเบียบขั้นตอนอาจจะเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งพรุ่งนี้นางสาวพัชร์สิตาจะไปยื่นหนังสือร้องถึงผบตร. รวมทั้งที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีเพื่อร้องเรียนการทำงานของเจ้าหน้าที่บางนาย ในสภ.บางใหญ่ ด้านพลตำรวจโทหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้ตอบว่าตนเองก็พยายามทำงานอย่างตรงไปตรงมาทั้งหากนางสาวพัชร์สิตาจะไปยื่นหนังสือถึงผบตร. ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าตนทำตามกระบวนการของกฏหมายอยู่แล้ว
วันที่11ก.ย.2562 ที่สภ.บางใหญ่จังหวัดนนทบุรีเวลา 14:00 น นางสาวพัชร์สิตา เจ้าของโรงงานธุรกิจสื่อการเรียนการการสอนเดินทางมาที่ สภ.บางใหญ่จังหวัดนนทบุรีหลังจากได้รับหมายจับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ ให้เธอมาพบและรับทราบข้อกล่าวหา ทั้งที่เธอแจ้งความหาว่ามีคนบุกทวงถามหนี้ข่มขู่ทวงหนี้ที่โรงงานเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมาโดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจนแต่ตำรวจไม่สามารถที่จะจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ น้ำซ้ำผู้ที่บุกรุกกับแจ้งความดำเนินคดีกับเธอในข้อหาฉ้อโกง คดีไวปานจรวด วันนี้เธอจึงมาหาผู้กำกับ สภ.บางใหญ่ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงว่าเหตุใดคดีเธอถึงไม่มีความคืบหน้า โดยจะแจ้งนัดหมายกับสื่อมวลชนว่าจะมีการแถลงข่าวเพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนอีกทั้งให้สื่อมวลชนมาเป็นพยานในการมาที่สถานีตำรวจในครั้งนี้เพราะตนเองเชื่อว่าหากมาคนเดียวเพียงลำพังอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะที่สถานีตำรวจบางใหญ่ มีเจ้าแม่หรือผู้จัดการ สภ. ซึ่งระว่างที่เธอได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร้องขอความเป็นธรรมในฐานะประชาชนคนธรรมดา ก็มีเมียกำนันคนเก่งที่เธอบอกว่าเป็นผู้จัดการได้เดินทางมาที่ สภ.บางใหญ่พร้อมกับหญิงสาวอีก 1 คนโดยเดินเข้าในห้องพนักงานสอบสวน
ตามที่เธอได้พูดกับสื่อมวลชนไม่มีผิดว่าที่นี่มีผู้จัด สภ.ขนาดผู้กำกับยังสั่งลูกน้องตัวเองไม่ได้ เธอเคยขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน โดยก่อนหน้านี้ได้แจ้งกับผู้กำกับไป 1 ครั้งแล้วผู้กำกับรับปากว่าจะเปลี่ยนแปลงให้ แต่ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของหัวหน้าพนักงานสอบสวนพันตำรวจโทยศอัศวิน ซึ่งเธอบอกว่าหัวหน้าพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวทำตัวไม่เป็นกลาง มีการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ในวันเดียวกัน และออกหมายจับในวันถัดมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็แสดงให้เห็นว่าพนักงานสอบสวนรีบเร่งรัดคดีและทำงานไม่ถูกระเบียบขั้นตอนอาจจะเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งพรุ่งนี้นางสาวพัชร์สิตาจะไปยื่นหนังสือร้องถึงผบตร. รวมทั้งที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีเพื่อร้องเรียนการทำงานของเจ้าหน้าที่บางนาย ในสภ.บางใหญ่ ด้านพลตำรวจโทหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้ตอบว่าตนเองก็พยายามทำงานอย่างตรงไปตรงมาทั้งหากนางสาวพัชร์สิตาจะไปยื่นหนังสือถึงผบตร. ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าตนทำตามกระบวนการของกฏหมายอยู่แล้ว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)