วันนี้ เวลา 10.30 น.ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อนายกรัฐมนตรี โดยเปิดเผยว่า ตามที่ ผบ.ตร.กลับมีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 387/2563 ลงวันที่ 29 ก.ค.63 ให้พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ไปสำรองราชการ โดยอ้างว่า รอง ผบ.ตร.ซึ่งถูกกล่าวหา กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยมีพฤติการณ์และการกระทำเข้าลักษณะมีเจตนาเปิดเผยความลับของทางราชการ และฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งว่าด้วยการให้ข่าวสัมภาษณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของ ตร.อย่างร้ายแรงนั้น
ทั้งนี้จากคำสั่งดังกล่าว มีข้อครหาว่าทำไม ผบ.ตร. จึงได้เลือกที่จะมาออกคำสั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัยในช่วงที่กำลังจะมีการคัดเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ที่ตัวเองกำลังจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัยว่าว่า ผบ.ตร. ต้องการจะตั้งคนของตัวเองขึ้นมานั่งเก้าอี้แทนหรือไม่ โดยปิดโอกาสพล.ต.อ.วิระชัยที่อาวุโสสูงสุดในระดับรองผบ.ตร.ด้วยกัน
นอกจากนี้คำสั่งสำรองราชการพล.ต.อ.วิระชัยครั้งนี้ ผบ.ตร. ใช้อำนาจเกิดขอบเขตที่ตัวเองรับผิดชอบหรือไม่ ทั้งนี้เนื่องจากพล.ต.อ.วิระชัยเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ การออกคำสั่งดังกล่าวอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะการออกคำสั่งในช่วงที่กำลังจะมีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ เพื่อปิดกั้นโอกาสการก้าวหน้าในหน้าที่ราชการอีกด้วย
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้นำความมาร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน “ก.ต.ช.” และในฐานะประธาน “ก.ตร.” เพื่อใช้อำนาจตาม ม.18 และหรือ ม.31 แห่งพรบ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบ ม.11(6) แห่งพรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการและสั่งการ ดังนี้
1)ขอให้สั่งการให้มีการระงับหรือชะลอการพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ที่มีข่าวว่าจะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.63 นี้ไว้พรางก่อน จนกว่ากรณีข้อกล่าวหา พล.ต.อ.วิระชัย จะได้ข้อยุติ และเพื่อความเป็นธรรมอย่างไม่เลือกปฏิบัติ
2)ขอให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบาย ว่ากรณี ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งให้สำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.โดยกล่าวหาว่าผิดวินัยร้ายแรง เป็นการกลั่นแกล้ง หรือเลือกปฏิบัติ หรือใช้อำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือกฎ ก.ตร.หรือไม่ อย่างไร
3)นอกจากนั้นขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายของ ผบ.ตร. และ ผบข.น.(น.1) กรณีเกิดเหตุยิงกันในบ่อนการพนันแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 พื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สว.(สอบสวน) สน.แสมดำอยู่ด้วย การปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันที่ผิดกฎหมายอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองมานับ 10 ปี และอีกหลายต่อหลายแห่ง และในพื้นที่ต่างจังหวัดหลายพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ของ ผบ.ตร. หรือไม่ และการลงโทษในกรณีล่าสุดเพียงการสั่งย้าย ผบก.น 5 ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ รองผกก.ป.สน.ทุ่งมหาเมฆ สวป.สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สว.สส.สน.ทุ่งมหาเมฆ ออกไปจากพื้นที่นั้น เป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดหรือไม่ เหตุใดไม่ลงโทษทางวินัยและสั่งพักราชการหรือสำรองราชการตามกฎ ก.ตร.
ที่สำคัญทำไม ผบ.ตร. และ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จึงไม่ถูกลงโทษด้วย ซึ่งหากจะปฏิบัติตาม กฎ ก.ตร. โดยเคร่งครัด ไม่เลือกปฏิบัติ ควรที่จะต้องสั่งสำรองราชการ ผบ.ตร. และ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือส่วนราชการใด หรือสำรองราชการในส่วนราชการใด 2548 ข้อ 3 (3) ด้วยหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น