เมื่อวันที่ 8 ม.ค. พล.ต.ท สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม .ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 เดินทางเข้าพบนายอับดุลลอฮ์ มูฮัมหมัด อัลชุเอบี้ อุปทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย เพื่อหารือกรณีนางสาว"ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน" หญิงชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 18 ปี ที่หลบหนีการแต่งงานเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอชซีอาร์
พล.ต.ท สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากด้านพูดคุยหารือผลออกมาเป็นที่น่าพอใจพอใจ. ยืนของทั้งสองประเทศได้มุ่งหมายในลักษณะเดียวกัน คือเน้นความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะทางซาอุดิอาระเบียซึ่งทางอุปทูตได้กล่าวไว้ว่า ในการทำงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไทย รัฐบาลไทยและกระทรวงการต่างประเทศของไทยเมื่อวานนี้ถือเป็นที่น่าพึงพอใจ อีกทั้งเห็นด้วยกับแนวทางที่ทำมา เพราะรัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีความประสงค์เหมือนกันที่ต้องการดูแลความปลอดภัยให้สาวชาวซาอุดีอาระเบียมีความสบายใจ ความปลอดภัยและไม่เกิดความกังวลใจ อะไรก็ตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจนถึงขณะนี้เป็นความประสงค์ของหญิงสาวชาวซาอุที่ต้องการให้ยูเอ็นเอชซีอาร์เข้ามาดูแล
เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางการเมืองหรือรัฐบาล มองในส่วนของความปลอดภัยของสาวซาอุเป็นหลัก ซึ่งทางหญิงดังกล่าวต้องการให้ยูเอ็นเอชซีอาร์เข้ามาดูแล แต่ไม่ใช่ความประสงค์ของทางรัฐบาลไทยที่ให้ยูเอ็นเอส ซีอาร์เข้ามาดูแล
ทั้งนี้คุณพ่อและพี่ชายของหญิงสาวชาวซาอุจะเดินทางมายังประเทศไทยในวันนี้ซึ่งตนก็จะทำหน้าที่ในการประสานผ่านทางยูเอ็นเอชซีอาร์เพื่อที่จะให้เข้าไป พูดคุยส่วนจะคุยได้หรือไม่นั้นเป็นสิทธิ์ของหญิงสาวซาอุ ซึ่งในส่วนนี้ทางคุณพ่อและพี่ชายก็คงอยากให้ทางยูเอ็นเอชซีอาร์ ฟังข้อมูลทั้งสองด้านเพื่อต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งทั้งสองประเทศได้ให้ข้อสรุปตรงกันว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องของทางครอบครัวที่ครอบครัวต้องพูดคุยกันและหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งหลังจากนี้ทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติจะดำเนินการพิจารณาโดยใช้ระยะเวลากรอบห้าวันเพื่อดำเนินการต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น