ปฏิบัติการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ครั้งที่ 26 ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 และ 4
ตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว โดยในวันนี้ (28 มกราคม 2562) ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) โดย พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พลตำรวจตรี กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พลตำรวจตรี บุญลือ กอบางยาง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และพลตำรวจตรีไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร.ชุดที่ 5,6,7,8 และ 9 และชุดปฏิบัติการ ศปฉช.ตร. ได้ประสานการปฏิบัติกับ พลตำรวจโทสุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๔, พลตำรวจโท พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, พลตำรวจตรี ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม, พลตำรวจตรี ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ, พลตำรวจตรี ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี, พลตำรวจตรี วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, และ พลตำรวจตรี สมชาย นุ่มโต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยหน่วยทหารในพื้นที่ ดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่”ครั้งที่ 26 ปิดล้อมตรวจค้นยึด/อายัดทรัพย์สินของกลุ่มนายทุนเงินกู้ ผู้ต้องหา ในพื้นที่จังหวัดนครพนม, บึงกาฬ, ร้อยเอ็ด, นครราชสีมา และอุบลราชธานี รวม 13 ราย 18 จุด โดยผลการปฏิบัติ สรุปได้ดังนี้
1.จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 คน ประกอบด้วย นางสาวกุหลาบ เรืองวรบูรณ์ อายุ 49 ปี และ นายอิทธิพล เรืองวรบูรณ์ อายุ 72 ปี
ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
2.ยึด/อายัดทรัพย์สิน ผู้ต้องหา มูลค่า ๑๐๐ ล้านบาท ประกอบด้วย
2.1 อาคารพาณิชย์จำนวน ๔คูหา
2.2 บ้านพร้อมที่ดินจำนวน ๓หลัง
2.3 ทองรูปพรรณหนัก๑๓๐ บาท
2.4 อาวุธปืนจำนวน๕กระบอก
2.5 รถยนต์จำนวน๓คัน
3.ตรวจยึดโฉนดที่ดิน จำนวน ๑๑๑ ฉบับ มูลค่า ๑๖๐.๕ ล้านบาท
พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องทางคดีอีกหลายรายการ
รวมมูลค่าทั้งสิ้น ๒๖๐.๕ ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น