บิ๊กโจ๊ก ทลายปาร์ตี้สวิงกี้ง โดยผู้ต้องหามีพฤติกรรมชักชวนบุคคลทั่วไปผ่านโปรแกรม B-TALK มาร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้ง
ตามนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อันเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยในสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สนองนโยบายของรัฐบาลโดยกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. ,พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 สตม. ,พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร. ,พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม. ได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการที่ 26 และ 27 ศปอส.ตร. ร่วมกับ บก.ปคม. ,กก.สส.บก.น.4 ,บช.ปส. และสน.วังทองหลาง ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ทุกราย
สืบเนื่องจากมีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาที่ เฟสบุ๊ค “สุรเชษฐ์ หักพาล” ว่ามีบุคคลผู้ใช้งานแอพฟลิเคชั่นบีทอค(Beetalk) ชื่อ “taiza” ซึ่งได้โพสต์ข้อความจัดหาคนและสถานที่สำหรับการสวิงกิ้ง (การมีเพศสัมพันธ์จำนวนหลายคนโดยมีลักษณะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน) โดยมีการเก็บเงินสำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนเงิน 1,800 บาท ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ทำการสืบสวนด้วยวิธีการส่งสายลับเข้าแฝงตัวในกลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมสวิงกิ้ง จนทราบว่าผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นดังกล่าว คือ น.ส.ภัสสรัณญ์ ถึกป่าย และจะจัดกิจกรรมสวิงกิ้ง ในวันที่ 20 ตุลาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง วันที่ 21 ตุลาคม 2561 เวลา 03.00 น. ที่ ห้องโคลงเคลงช้าง โรงแรมโยทะกาบูทีค เลขที่ 246/7 ซอยลาดพร้าว122 แยก24 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงได้วางแผนจับกุมโดยได้ส่งสายลับเข้าร่วมกิจกรรมสวิงกิ้งตามเวลาและสถานที่ดังกล่าว เมื่อสายลับส่งสัญญาณว่าได้มีการร่วมประเวณีกัน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงได้เข้าตรวจค้นจับกุม
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้จับกุมผู้ต้องหา 2 คน และทำการตรวจสารเสพติดผู้ร่วมกิจกรรมสวิงกิ้ง จำนวน 19 คน (ชาย 8 คน และหญิง 11 คน) ดังนี้
จับกุม 1.น.ส.ภัสสรัณญ์ ถึกป่าย สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 646/15 ซอยลาดพร้าว47 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
ในข้อหา “เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 วรรคแรก โดยมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ไม่เกินห้าปี
จับกุม 2.นายมานะ เกณงูเหลือม สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 219 หมู่14 ตำบลพิงพวย อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ
ในข้อหา “ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา 15 โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
ส่วนผลการตรวจสารเสพติดผู้ร่วมกิจกรรม ไม่พบสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด
ขอขอบคุณ ภาพ/ ข่าว จาก
พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.
//นสพ.เจาะเลนส์//
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น