วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2561

จับกุม แท็กซี่ปล่อยทิ้งนักท่องเที่ยว ชาวเกาหลีใต้ กลางทาง

จับกุม แท็กซี่ปล่อยทิ้งนักท่องเที่ยว ชาวเกาหลีใต้ กลางทาง
​​
จากกรณี เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561 ได้มีผู้ใช้อินสตาแกรม ชาวเกาหลีใต้ ชื่อ kwrhome โพสต์ข้อความประจานพฤติกรรมของแท็กซี่ไทยรายหนึ่งที่ไล่นักท่องเที่ยวชายชาวเกาหลี จำนวน 4 คน ลงจากรถ พร้อมถืออาวุธลักษณะคล้ายไม้ จากสาเหตุที่นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีไม่พอใจที่แท็กซี่ไม่ยอมคิดราคาค่าโดยสารตามมิเตอร์รถยนต์ และขับรถวนอยู่กว่า 20 นาที
ต่อมาจากการตรวจสอบ ทราบว่าผู้ใช้อินตราแกรมดังกล่าว คือ นายคิมอูริ (Kim Woori) พิธีกรรายการชื่อดังของเกาหลีใต้ และอดีตสไตล์ลิตต์ของวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง T-ARA พร้อมกับเพื่อนชาวเกาหลีใต้ รวมจำนวน 4 คน ได้เรียกรถยนต์แท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทห 8397 กทม. จากห้างสยามพารากอน ไปยังสาทร แต่เนื่องจากผู้ขับขี่แท็กซี่ต้องการคิดราคาเหมาจ่าย จำนวน 200 บาท แต่นักท่องเที่ยวต้องการให้คิดราคาตามมิเตอร์ จึงถูกแท็กซี่ขับรถวน ก่อนนำนักท่องเที่ยวไปปล่อยทิ้งยังบริเวณสำเพ็ง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2561
เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ , เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว , เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.จร. และเจ้าหน้าที่ขนส่ง ได้ติดตามตรวจสอบทราบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์แท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทห 8397 กทม. คือ นายสุรชาติ อาจวงษา อายุ 43 ปี จึงได้เชิญตัวมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ดังนี้
1.ผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกันไว้ ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 57 เบญจา ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน หนึ่งพันบาท
2.ผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 57 ฉ (2) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน หนึ่งพันบาท
กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มีการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวก ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ โดยมีการออกจับกุมผู้กระทำความผิด ตาม พรบ.จราจรทางบก และ พรบ.รถยนต์ ที่ส่งผลกระทบนักท่องเที่ยวและประชาชน จึงได้บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุมอย่างต่อเนื่องดังนี้
ปี 2560 จำนวน 3,408 ราย
ปี 2561 จำนวน 17,015 ราย
รวมจำนวน 20,423 ราย
​​เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชน ซึ่งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มุ่งหวังให้นักท่องเที่ยวได้รับความสุข ความประทับใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยต่อไป

ที่มา : ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น