วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

“จับกุมผู้ต้องหาหลอกจ้างเหยื่อให้ SexPhone (Video call) กับลูกค้าแล้วบันทึกคลิปขู่กรรโชกทรัพย์” 


ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมุ่งผลการป้องกันปราบปรามการอาชญากรรมที่ปรากฏใน สื่อออนไลน์ โดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีผ่าน Application TACTICS Connect ว่ามีคนร้าย มีพฤติกรรมหลอกลวงโดยการติดต่อผู้เสียหายทางFacebook Messenger ชื่อว่า “กนกพร มิ้น เอี่ยมสะอาด”


โดยใช้ภาพหญิงหน้าตาดีและอ้างว่าเป็นตัวแทนในการเสนองานให้ผู้เสียหายโทรศัพท์เซ็กโฟนกับลูกค้าชาย โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้รับงานจะต้องโทรคุยกับลูกค้าผ่านช่องทาง Facebook Messenger (Video Call) เท่านั้น จากนั้นก็ให้สำเร็จความใคร่ให้ลูกค้าดูหรือทำลักษณะยั่วอารมณ์เพื่อให้ลูกค้าสำเร็จความใคร่ โดยจะได้ค่าตอบแทนครั้งละ 5,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ผู้เสียหายรับงานดังกล่าวและมีการ Video Call ปรากฎว่าคนร้ายได้บันทึกภาพวีดีโอนั้นไว้ และข่มขู่ผู้เสียหายว่าหากไม่ยอมโอนเงินให้หรือทำตามเงื่อนไขที่เรียกร้อง จะนำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ในระบบอินเตอร์เนต จากนั้นได้ข่มขู่โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินให้เพื่อแลกกับการไม่นำคลิปไปเผยแพร่ ต่อมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง/รอง ผอ. ศปอส.ตร. จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร./รอง ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม./รอง ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี/รอง ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.๓ สตม./รอง ผอ.ศปอส.ตร. สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 20 – 25 (online team) ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ต่อมาจากการสืบสวนทางออนไลน์ทราบว่าคนร้ายรายดังกล่าวคือ นายกิตติศักดิ์ นิ่มบุญชื่น หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเลขที่ 4/1 หมู่ที่ 4 ตำบลพรานกระต่าย อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร และได้แอบใช้สัญญาณ wifi ข้างบ้านเพื่ออำพรางตัวตนและก่อเหตุดังกล่าว จึงได้ขอหมายค้นศาลจังหวัดกำแพงเพชรเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของ นายกิตติศักดิ์ นิ่มบุญชื่น เมื่อเข้าทำการตรวจค้น พบ นายกิตติศักดิ์ นิ่มบุญชื่น กำลังใช้คอมพิวเตอร์สนทนาผ่านช่องทาง Facebook Messenger ของเหยื่อที่เคยถูกหลอกลวง สนทนาหลอกลวงกลุ่มหญิงสาวทาง Facebook จำนวน 37 ราย ซึ่งในกลุ่มที่ผู้ที่กำลังสนทนานั้น มีหญิงสาวบางรายได้หลงเชื่อและส่งคลิปโป้เปลือยให้กับผู้ต้องหา และกำลังถูกผู้ต้องหารายนี้ข่มขู่เพื่อให้โอนเงินมาให้แลกกับการไม่นำคลิปไปเผยแพร่เช่นเดียวกับแผนประทุษกรรมที่ได้ก่อเหตุมาก่อนนี้ จากการตรวจสอบในบ้านพักของ นายกิตติศักดิ์ นิ่มบุญชื่น ยังพบสมุดบัญชีเงินฝากของ นายกิตติศักดิ์ นิ่มบุญชื่น มีเงินหมุนเวียนเข้ามากกว่า 2 ล้านบาท อีกทั้งพบสมุดบันทึกส่วนตัวซึ่งมีการจดบันทึกข้อมูล Facebook ที่ปลอมขึ้นมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ Facebook ที่ นายกิตติศักดิ์ นิ่มบุญชื่น ปลอมขึ้นมา พบคลิปและข้อความสนทนาในแผนประทุษเดียวกันนี้ มีหญิงสาวหลงเชื่อและได้รับความเสียหายมากกว่า 200 ราย สอบถาม นายกิตติศักดิ์ นิ่มบุญชื่น ให้การรับสารภาพว่าได้ข่มขู่ให้เหยื่อที่ถูกหลอกส่งรหัสใช้งาน Facebook ของตนให้ แล้วใช้ Facebook ของเหยื่อหลอกลวงผู้เสียหายหลายราย เมื่อหลอกลวงเหยื่อได้ก็จะปิด Facebook ที่ใช้หลอกลวงสำเร็จและได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีเว็บไซด์พนันออนไลน์ Sbobet.ca เพื่ออำพรางตัวตน แล้วจึงถอนเงินจากเว็บไซด์พนันออนไลน์เข้าบัญชีธนาคารของตนเอง ฐานความผิดของ นายกิตติศักดิ์ นิ่มบุญชื่น กรรโชกทรัพย์ผู้อื่น อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือ ปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดการเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือ ปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขอขอบคุณ ภาพ/ ข่าว จาก พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น