เจรจาล่ม! "นายอำเภอสระโบสถ์"เรียกชาวบ้านกว่า 400 คน จำนวน 10 หมู่บ้านในพื้นที่ ต.มหาโพธิ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ร่วมเจรจาและรับฟังความคิดเห็นกรณีชาวบ้านคัดค้านการทำเหมืองแร่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
เจรจาล่ม! "นายอำเภอสระโบสถ์"เรียกชาวบ้านกว่า 400 คน จำนวน 10 หมู่บ้านในพื้นที่ ต.มหาโพธิ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ร่วมเจรจาและรับฟังความคิดเห็นกรณีชาวบ้านคัดค้านการทำเหมืองแร่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เหตุกระทบกับวิถีชีวิตและเป็นการทำลายพื้นที่ป่าสมบูรณ์ สุดท้ายการเจรจาต้องยุติเพราะชาวบ้านต้องการให้ยกเลิกการทำเหมืองสถานเดียว ขณะที่“ทนายความ”ตัวแทนบริษัทเอกชนอ้างชาวบ้านมีการปลอมแปลงลายเซ็นต์หนังสือร้องเรียน จำนวนกว่า 100 ราย
จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ 3 ต.มหาโพธิ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ยื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านโครงการทำเหมืองแร่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.มหาโพธิ ตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุด ที่องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)มหาโพธิ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ย.63 นายอภิชัย ศรีเมือง นายอำเภอสระโบสถ์ ได้ออกหนังสือเรียกชาวบ้านร่วมประชุม เพื่อชี้แจงและเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านและผู้ประกอบการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ขอสัมปทานบัตร พ.ศ.2561 ลงวันที่ 18 เม.ย.61 โดยมี นายนิรันด์ คำล้าน ปลัดอำเภอสระโบสถ์ รักษาราชการแทนนายอำเภอสระโบสถ์ เป็นประธาน พร้อมด้วย น.ส.อภิญญา ชุ่มฤทธื์ ปลัด อบต.มหาโพธิ, นายสุทัศนัย สุวรรณศิลป์ ทนายความที่ปรึกษากฎหมายบริษัทเหมืองแร่ ในฐานะตัวแทนบริษัทเหมืองแร่, นางสมบูรณ์ ฉิมพลี ชาวบ้านหมู่ 3, นายวรายุทธ์ รักษาทรัพย์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน 10 หมู่บ้าน จำนวนกว่า 400 คน เข้าร่วมรับฟังคำชี้แจงจากผู้ประกอบการเหมืองแร่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
ซึ่งได้ดำเนินการขออนุญาต เข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม ชนิดหินเพอร์ไลต์ ตามคำขอประทานบัตรที่ 7/2560 หมายเลขหลักเหมืองแร่ที่ 29275 ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.มหาโพธิ์ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ซึ่งบรรยากาศในที่ประชุม ชาวบ้านที่มาร่วมฟังต่างชูป้ายเขียนข้อความว่า “เราไม่เอาเหมืองแร่” พร้อมตะโกนส่งเสียงคัดค้านตลอดเวลา สุดท้ายทำให้ผลการเจราจาต้องยุติลง ด้วยเหตุที่ชาวบ้านไม่พอใจและไม่ต้องการเหมืองแร่ ด้าน นางสมบูรณ์ ฉิมพลี ชาวบ้านหมู่ 3 กล่าวว่า พวกเราชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับการขออนุญาตทำเหมืองแร่ในพื้นที่ดังกล่าว เพราะจะกระทบกับวิถีชีวิต เนื่องจากพื้นที่ในการขออนุญาตนั้น ห่างจากหมู่บ้านแค่ 2-3 กิโลเมตรเท่านั้น ถ้าเกิดมีการทำเหมืองแร่ เวลามีการขนถ่ายสินค้า ก็จะมีรถขนาดใหญ่ทั้งรถ 10 ล้อ รถพ่วงวิ่งผ่านหมู่บ้าน จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องความปลอดภัย ปัญหาฝุ่นละออง การคมนาคมจะไม่สะดวก เพราะว่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่เป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ หากมีการเปิดเหมืองแร่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชุมชน วอนนายกรัฐมนตรี นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ช่วยให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการเปิดเหมืองแร่ดังกล่าว ทางด้าน นายสุทัศนัย สุวรรณศิลป์ ทนายความที่ปรึกษากฎหมายบริษัทเหมืองแร่ ในฐานะตัวแทนบริษัทเหมืองแร่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น ตรวจพบว่ามีชาวบ้านหมู่ 3 ที่ยื่นหนังสือร้องเรียนนั้น มีการปลอมแปลงลายเซ็นต์ จำนวนกว่า 100 ราย
แต่การชี้แจงเพื่อหาข้อยุติ ชาวบ้านไม่รับฟังเหตุผล ผมต้องขอโทษด้วย จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน และจะส่งหมายเรียกชาวบ้านมาเป็นรายบุคคลต่อไป ขณะที่ นายวรายุทธ์ รักษาทรัพย์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า หมู่บ้านของเรามีป่าไม้ ภูเขา แม่น้ำ ลำคลอง ซึ่งชุมชนในพื้นที่ ต.มหาโพธิ พวกเราต้องปกป้องรักษา ส่วนเรื่องที่ว่ามีการปลอมแปลงลายเซ็นนั้น อาจจะมีลูกหลานผู้ป่วยติดเตียงเซ็นชื่อเองไม่ได้ เลยให้ลูกหลานเซ็นแทน มันมีปัญหาตรงข้อนี้แหละ จริงๆวันนี้จะพูดอยู่แล้วว่า ขอมติในที่ประชุมเลยให้มันจบๆไป เพราะชาวบ้านเขาต้องทำมาหากินไม่ต้องเสียเวลาในเรื่องนี้อีก เพราะมันยืดเยื้อมานานพอสมควรแล้ว "ที่ผ่านมาพวกชาวบ้านหมู่ 3 ต้องขอขอบคุณชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ซึ่งพวกเราที่เดือดร้อนได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อท่าน ด้วยความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ท่านจึงได้ประสานงานทีมทนายความ และสื่อมวลชน เดินทางเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในการประชุม เพื่อหาข้อยุติการทำเหมืองแร่ดังกล่าวด้วย" อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น