วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ปฏิบัติการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ครั้งที่ 23 ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4

ปฏิบัติการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ครั้งที่ 23 ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4

ตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร   วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 577/2561 ลงวันที่       3 ตุลาคม 2561 เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว โดยในวันนี้ (28 ธันวาคม 2561) ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พลตำรวจตรี กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง           ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร.ชุดที่ 5,6,7,8 และ 9 ได้ประสานการปฏิบัติกับ พลตำรวจโท สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4, พลตำรวจตรี พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และ
พลตำรวจตรี วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยหน่วยทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ครั้งที่ 23 โดยได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น และยึด/อายัดทรัพย์สินและหาพยานหลักฐานของกลุ่มนายทุนเงินกู้ ผู้ต้องหา ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และอุดรธานี รวม 15 เป้าหมาย 19 จุด โดยผลการปฏิบัติ สรุปได้ดังนี้

​1.จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 5 ราย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” ประกอบด้วย
นายสุรศักดิ์ คชินทักษ์, นายสมบัติ  พูนศักดิ์ไพศาล, นางศิริประภา  เติมธนไพศาล,  นางประไพ   โขพิมพ์
และ นางปภาดา  ศรีสะอาด
​2.ยึด/อายัดทรัพย์สิน ผู้ต้องหา มูลค่า 129.3 ล้านบาท ประกอบด้วย
​​2.1 บ้านพร้อมที่ดิน ​ ​จำนวน ​​5 ​หลัง ​
2.2 อาคารพาณิชย์​​จำนวน ​​1 ​คูหา ​
2.3 รีสอร์ท​​​จำนวน ​​1 ​แห่ง ​
2.4 รถยนต์​​​จำนวน ​​2 ​คัน ​​​
2.5 รถจักรยานยนต์​​จำนวน ​​2 ​คัน ​​​
2.6 อาวุธปืน​​​จำนวน ​​2  ​กระบอก ​​
2.7 ทองคำ​​​หนัก ​​500 ​บาท ​​
และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ​​
3. ตรวจยึดโฉนดที่ดิน จำนวน 217 ฉบับ มูลค่า 291.6 ล้านบาท
   และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ​

รวมมูลค่าทั้งสิ้น 420.9 ล้านบาท




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น