วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ข่าวประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการตํารวจนครบาล ๓๒๓ วังปารุสกวัน ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐ รายงานผลการจับกุมคดี “ร่วมกันลักทัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยทําอันตรายส่ิงกีดก้ันสําหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทําผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” สน.อุดมสุข

ข่าวประชาสัมพันธ์ 
กองบัญชาการตํารวจนครบาล
๓๒๓ วังปารุสกวัน ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต 
เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐
รายงานผลการจับกุมคดี
“ร่วมกันลักทัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยทําอันตรายส่ิงกีดก้ันสําหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทําผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” สน.อุดมสุข

ตามนโยบาย สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และ กองบัญชาการตํารวจนครบาล ให้เร่งรัดสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้ต้องหา ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป รวมทั้ง คดีท่ี ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง
กองบัญชาการตํารวจนครบาล ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น., พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.๔,
นายไพศาล หรือเค ไทรแก้ว อายุ ๕๐ ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ ๑๐๐/๔๑๗ หมู่ ๒ ตําบลบึงสนั่น อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี บัตรประจําตัวประชาชน ๕-๘๐๐๖-๐๐๐๑๓-๕๗-๓
บริเวณหน้าห้องเลขที่ ๑๑๐๕ โกร์ว เรสซิเดนส์ เลขท่ี ๗๖๕ ถนนรามอินทรา แขวงคัน นายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ในการจับกุม เม่ือวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑ และวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๑ ได้มีคนร้ายก่อ เหตุลักทรัพย์ ในหมู่บ้านพนาสนธ์ ๗ ถนน กาญจนาภิเษก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร จํานวน ๓ หลัง พื้นท่ี สน.อุดมสุข เจ้าหน้ท่ีฝ่ายสืบสวนจึงได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่า คนร้ายเป็นชายจํานวน ๒ คนเป็นผู้ก่อเหตุ ใช้ ยานพาหนะรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติ๊ด สีบรอนด์ เป็นยานพาหนะ จึงได้ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนี พบคนร้ายใช้ เส้นทางหลบหนีผ่านด่านเก็บเงินทับช้างมุ่งหน้าถนนลําลูกกา จนพบรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุดังกล่าวจอดอยู่บริเวณลานจอด รถของ โกร์ว เรสซิเดนส์ เลขที่ ๗๖๕ ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร จึงได้ซุ่มโปร่งบริเวณ ใกล้เคียง พบนายไพศาล หรือเค ไทรแก้ว เดินมาที่รถยนต์คันก่อเหตุ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าท่ีตํารวจ เข้าทําการจับกุม สอบถามนายไพศาลฯ ทราบว่า ได้ใช้รถยนต์คันดังกล่าวก่อเหตุจริง และได้สมัครใจนําเจ้าหน้าที่ตํารวจไปทําการตรวจค้น ห้องเลขที่ ๑๑๐๕ โกร์ว เรสซิเดนส์ เลขท่ี ๗๖๕ ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็น ห้องพักที่นายไพศาล หรือเค ไทรแก้ว พักอาศัยอยู่ร่วมกับน.ส.กมลวรรณ หรือกิ๊ฟ กรรมแต่ง พบทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุ ลักทรัพย์ จํานวน ๘๘ รายการ เม่ือตรวจสอบภายในรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติ๊ด ทะเบียน ษข-๖๗๔๑- กรุงเทพมหานคร พบอาวุธปืน ลูกโม่ ขนาด .๓๘ จํานวน ๑ กระบอก เคร่ืองกระสุนปืน จํานวน ๗ นัด เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ สอบถามขยายผล นายไพศาล หรือเค ไทรแก้ว รับว่า ได้ร่วมกับนาย สัญญา หนือตึ๋ง อํ่ากรุด เป็นผู้ก่อเหตุ โดยมี น.ส. กมลวรรณ หรือกิ๊ฟ กรรมแต่ เป็นผู้นําทรัพย์สินท่ีได้จากการลักทรัพย์ไปจํานําและขาย ขณะน้ี นายสัญญา หรือตึ๋ง อํ่ากรุด ได้

พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.๔, พ.ต.อ.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผกก.น.๕,
พ.ต.อ.ปนาถพร ปุณศรี ผกก.สส.น.๕, พ.ต.อ.อดิศักดิ์ ชูพันธ์ ผกก.สน.บางชัน, พ.ต.อ.อรรถวินทร์ เกตุแก้ว ผกก.สน.อุดมสุข
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตํารวจสืบสวน บก.น.๔, เจ้าหน้าที่สืบสวน บก.น.๕, เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน, เจ้าหน้าที่ฝ่าย
สืบสวน สน.อุดมสุข สืบสวนหาข่าวคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ในเคหสถานในเขตพื้นที่ สน.บางเขน,สน.สายไหม,สน.คันนายาว
,สน.มีนบุรี, สน.หัวหมาก, สน.บางชัน, สน.อุดมสุข, สน.พระโขนง และสน.บางนา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ร่วมกันสืบสวนหา
ข่าวในบริเวณที่เกิดเหตุและเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายจนสามารถร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา
๑.
 ๒.น.ส.กมกวรรณ หรือกิ๊ฟ กรรมแต่ง อายุ ๒๗ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๒๓๐ หมู่ที่ ๖ ต.เทพระบาท อ.เชียงใหญ่
 จ.นครศรีธรรมราช บัตรประจําตัวประชาชนเลขที่ ๑๘๐๐๖๐๐๑๒๖๒๐๖
 จับกุมผู้ต้องหาได้ที่
-๒-
พักอาศัยอยู่ที่ หมู่บ้านสวนทอง ๘ หมู่ที่ ๔ ต.ลาดสวาย อ.ลําลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตํารวจฝ่ายสืบสวน จึงได้เดินทางไป ที่บ้านหลังดังกล่าว แต่นายสัญญา หรือตึ๋ง อ่ํากรุด สามารถหลบหนีไปได้ ตรวจสอบภายในบ้าน พบ น.ส.ปวีณา ต้องเส่ง อายุ ๓๒ ปี อยู่ภายในบ้าน ตรวจสอบภายในบ้านพบ คีมตัดเหล็ก, ชะแลง, กรรไกรตักเหล็ก, ถุงมือ, ผ้าปิดปาก ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ จึงได้ตรวจยึดไว้ จาการตรวจสอบประวัติการกระทําควารมผิด พบว่านายไพศาล หรือเค ไทรแก้ว
เคยถูกจับกุมในข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรและต้องโทษจําคุกมาแล้วจํานวน 3 ครั้ง รายละเอียดดังนี้ 1.สภ.ธัญบุรี ข้อหา “ลักทรัพย์ผู้อื่นฯ” เรือนจําอําเภอธัญบุรี รับตัว 30 มี.ค. 2556 ปล่อยตัว 29 พ.ค.2557

2.สน.ประเวศ ข้อหา “ลักทรัพย์หรือรับของโจร” เรือนจําพิเศษมีนบุรี รับตัว 29 พ.ค. 2557 ปล่อยตัว 26 ก.พ. 2558
3.สภ.ธัญบุรี ข้อหา “พยายามฆ่าฯ” เรือนอําเภอธัญบุรี รับตัว 26 ก.พ. 2558 ปล่อยตัว 13 พ.ค. 2561 เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ ๒ เดือน พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๑ หลังจากนั้นได้ร่วมกับนายสัญญา หรือตึ๋ง กรุดอ่ํา ก่อเหตุลักทรัพย์ในเคหสถานอีกประมาณ ๔๐-๕๐ ครั้ง มูลค่าทรัพย์สินประมาณ ๒๐ ล้าน เมื่อได้ทรัพย์สินแล้วนําไป
ขายแบ่งกัน แล้วนําเงินไปเล่นการพนัน ของกลางในการจับกุมครั้งนี้ 1.นาฬิกาข้อมือ
๒.พระหมู่บูชาและเหรียญพระเครื่อง ๓.กระเป๋าแบรนด์เนม ๔.เครื่องประดับ
๕.ของกลางอื่นฯ
จํานวน ๓๒ เรือน จํานวน ๒๕ รายการ
จํานวน ๙ ใบ จํานวน ๒๗ อัน
รวมจํานวน 88 รายการ
ดําเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยทําอันตรายสิ่งกีดกั้นสําหรับ คุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
ดำเนินคดีต่อไป
หนุ่ม นสพ. อินไซท์ผู้นำ และออนไลน์
ประจำ บช.น.








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น