วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2561

จับกุมหลอกลวงขายสินค้าแบรนด์เนมทางออนไลน์

จับกุมหลอกลวงขายสินค้าแบรนด์เนมทางออนไลน์

​ด้วยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.)ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม /รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้รับร้องเรียน           จากประชาชนกว่า 50 คน ซึ่งตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ หลอกโฆษณาขายสินค้าแบรนด์เนมในราคาถูกกว่า   ราคาทั่วไป , หลอกให้โอนเงินมัดจำสั่งจองสินค้าแบรนด์เนมล่วงหน้า (Pre Order) และรับฝากขายสินค้าแบรนด์เนมที่ใช้แล้ว จากนั้นไม่จัดส่งสินค้าตามที่สั่งซื้อ , ไม่ซื้อสินค้าตามที่สั่งจองและไม่ชำระค่าสินค้าคืนแก่ผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 7 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายกระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน ”      พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานงานกับพนักงานสอบสวน      กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดำเนินคดีตามกฎหมาย
​จากการสืบสวนทราบว่ามิจฉาชีพรายนี้คือ นายอุเทน  พรหมเดช  พ่อค้าขายของทางออนไลน์        ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ “Uten Grabbitcrew” และ “Uten Promdach” , ใช้อินสตราแกรม ชื่อ “G_Rabbitcrew” และใช้แอปพลิเคชั่นไลน์ โดยมีไอดีไลน์ คือ “@jsj2638e” ฉ้อโกงประชาชนในรูปแบบต่างๆ เช่น               โฆษณาขายกระเป๋า ยี่ห้อ Chanel Boy 10 ในราคา 144,000 บาท แต่เมื่อโอนเงินชำระค่าสินค้าแล้ว        กลับไม่ได้สินค้าตามที่ได้ตกลงหรือโฆษณาไว้ , รับสั่งจองกระเป๋า ยี่ห้อ Dior,Chanel,Louis                    โดยให้โอนเงิน 181,000 บาท (Pre Order) แต่ไม่ได้มีการซื้อสินค้าให้กับผู้สั่งจอง , รับฝากขายกระเป๋า       LV Speedy 30 World Tour DC 18 ที่ใช้แล้ว ในราคา 62,000 บาท จากนั้นยักยอกเอาสินค้าดังกล่าวไป โดยไม่มีการชำระค่าสินค้าคืนให้แก่ผู้เสียหาย

​พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาโดยศาลอาญา ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน,โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์      ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ”
​ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561  ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับชุดสืบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ติดตามจับกุมตัวนายอุเทน ฯ หลังจากสืบทราบว่าหลบหนีไปกบดานอยู่ที่        ศูนย์ปฏิบัติธรรมห้วยบง ตำบลห้วยบง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย แล้วนำส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
​               
         
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
1.ความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชน"ระวางโทษ "จำคุก 5 ปี  ปรับไม่เกิน 100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
2.ความผิดฐาน "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"       ระวางโทษ  "จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย     การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14(1)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น