จับกุมบริษัททัวร์หลอกขายทัวร์ต่างประเทศ
ตามนโยบายของรัฐบาลให้หน่วยงานราชการร่วมบูรณาการกำลังในการปราบปรามกลุ่มบริษัทนำเที่ยวผิดกฎหมายหรือกลุ่มบริษัทนำเที่ยวที่มีพฤติการณ์ในการหลอกลวง เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยเสียหาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดและเพื่อให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมนั้น กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ที่มีพฤติการณ์ในการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
ด้วยศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ศปอส.ตร.) และตำรวจท่องเที่ยวได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยว่าได้ซื้อโปรแกรมทัวร์เพื่อท่องเที่ยวประเทศโครเอเชีย รัสเซีย ญี่ปุ่น กับบริษัท ฟรายเวิร์ด แทรเวล จำกัด โดยนายพชร เรือนแก้ว กรรมการผู้จัดการ ต่อมาเมื่อถึงกำหนดการเดินทาง นายพชรฯ ได้ขอเลื่อนโปรแกรมทัวร์แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาการเดินทางตามที่นายพชรฯ ขอเลื่อนแล้ว ก็ไม่สามารถเดินทางได้อีกหรือบางรายถูกแจ้งยกเลิกการเดินทางและไม่คืนเงินให้ ตรวจสอบไม่พบว่านายพชรฯ มีการจองโรงแรมหรือสายการบินตามโปรแกรมทัวร์ที่ตกลงไว้ จึงเชื่อว่านายพชรฯ มีเจตนาไม่จัดโปรแกรมทัวร์ตามที่ตกลง กลุ่มผู้เสียหายจึงได้มาร้องเรียนยังศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ศปอส.ตร.) และตำรวจท่องเที่ยว เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผอ.ศปอส.ตร. ,พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ศปอส.ตร.) และตำรวจท่องเที่ยว สืบสวนกรณีดังกล่าวทราบว่าบริษัท ฟรายเวิร์ด แทรเวล จำกัด โดยนายพชร เรือนแก้ว กรรมการผู้จัดการ มีใบอนุญาติประกอบธุรกิจนำเที่ยวขายโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่มีอายุมาก เป็นคนรู้จักกับครอบครัวของนายพชรฯ และเคยซื้อโปรแกรมทัวร์ไปต่างประเทศกับนายพชรฯ มาก่อน จึงเกิดความเกิดความน่าเชื่อถือซื้อโปรแกรมทัวร์จำนวนมาก แต่เมื่อใกล้ถึงกำหนดวันเดินทางถูกแจ้งเลื่อนหรือยกเลิกโปรแกรมทัวร์ และบ่ายเบี่ยงปฏิเสธการคืนเงินเช่นเดียวกันมากกว่า 70 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 3 ล้านบาท
พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขันได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายพชรฯ ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชันในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ติดตามจับกุมตัวนายพชรฯ นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขันเพื่อดำเนินคดีต่อไป กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ความผิดฐาน "ฉ้อโกง" ระวางโทษ "จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
ขอขอบคุณ ภาพ/ ข่าว จาก พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น