สตม. รวบหนุ่มใหญ่ชาวรัสเซีย หัวหน้าแก๊งทำธุรกรรมการเงินผิดกฎหมาย สร้างความเสียหาย 235 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บก.สส.สตม.) ดำเนินการหาข่าวสืบสวนจับกุม กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่ก่ออาชญากรรมในประเทศต่าง ๆ แล้วใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งหลบซ่อนกบดาน ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย
โดยนโยบายของรัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบคนต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทย โดยอาศัยช่องทางการท่องเที่ยว เพื่อเข้ามาในประเทศไทยโดยมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง ซึ่งหากมองอย่างผิวเผินจะดูเสมือนเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปโดยจะอาศัยอยู่ในเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา เป็นต้น ซึ่งที่แท้จริงแล้ว มีจำนวนไม่น้อยเป็นบุคคลที่หนีหมายจับมาจากประเทศต่างๆ มาอาศัยประเทศไทยเป็นแหล่งกบดานและเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะก่อเหตุร้ายซ้ำอีก ดังนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. ดำเนินการจับกุม ผลักดัน ส่งกลับประเทศ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งรวมของคนร้าย และเพื่อเป็นการป้องกันอาชญากรรมที่เกิดจากชาวต่างชาติ ให้เจ้าหน้าที่ประสานข้อมูลกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลก ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ประจำสถานทูตรัสเซีย ว่าได้มีบุคคลสัญชาติรัสเซีย เป็นบุคคลตามหมายจับของทางการรัสเซีย และปัจจุบันคนร้ายอาศัยอยู่ในประเทศไทย ดังนั้น พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. ได้จัดชุดสืบสวนติดตามตัว จนกระทั่ง เมื่อ 26 ก.พ.2562 พ.ต.อ.ประวิทย์ ศิริธร ผกก.๒ บก.สส.สตม. ได้ร่วมสืบสวนกับ ตม.จว.ภูเก็ต บก.ตม.6 จับกุมตัวคนร้าย ชื่อ นายอเล็กเซ่ย์ ดอลเซนโคฟ (ALEXEY DOLZHENKOV) อายุ 36 ปี สัญชาติ รัสเซีย เป็นบุคคลตามจับของสหพันธรัฐรัสเซีย ศาลเมืองสตาว์โลโพล ได้ออกหมายจับ ลง 7 ต.ค.2558 ในความผิด “ทำธุรกรรมทางการเงินผิดกฎหมาย” โดยมีพฤติกรรมกล่าวคือ คนร้ายเป็นหัวหน้ากลุ่มแก๊ง ซึ่งเปิดตัวเป็นนายหน้าตัวแทนช่วยบริษัทต่าง ๆ ในเรื่องธุรกรรมการเงินที่ผิดกฎหมาย โดยจัดการภาษีโดยแสดงข้อมูลอันเป็นเท็จ บันทึกรายการทางการเงินในบัญชีธนาคารอันเป็นเท็จ และรับจัดการธุรกรรมทางการเงินโดยไม่มีใบอนุญาต เป็นต้น โดยอาชญากรรมกลุ่มนี้ได้มีการจัดการอย่างมีระบบ โดยมี นายอเล็กเซ่ย์ ดอลเซนโคฟ ผู้จัดตั้งและเป็นหัวหน้ากลุ่ม ทำเพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นทางการสหพันธรัฐรัสเซีย จึงได้ออกหมายจับ โดยสร้างความเสียหายในระบบธุรกิจของสหพันธรัฐรัสเซียเป็นมูลค่าถึง 485 ล้านรูเบิล หรือ ประมาณ 235 ล้านบาท
และกลุ่มอาชญากรกลุ่มนี้สร้างกำไรจากธุรกรรมการเงินผิดกฎหมาย เป็นเงิน 17 ล้านรูเบิล หรือ 8.2 ล้านบาท คนร้ายรับสารภาพว่า เมื่อตนทราบว่าทางการรัสเซียได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ ช่วงปี 2558 จากนั้นได้หนีออกจากประเทศรัสเซีย เดินทางเข้ามาประเทศไทยโดย วีซ่านักท่องเที่ยว และอาศัยอยู่ในประเทศไทยเพื่อหลบหนีนานกว่า 4 ปี จนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว จากนั้นอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. จึงได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นบุคคลต่างด้าวซึ่งรัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ และผลักดันออกนอกราชอาณาจักรต่อไป สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขอเรียนให้ทราบว่า คนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยจะต้องปฎิบัติตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง และต้องไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นลักษณะต้องห้ามเข้ามาและอยู่ในประเทศไทย เช่น มีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย หลบหนีคดีมาจากประเทศอื่น ก่อเหตุเข้าลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นต้น หากประชาชนท่านใดพบเห็นการกระทำความผิดหรือมีเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 จักขอบพระคุณยิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น