วันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๔ กอ.รมน. จัดพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ การขับเคลื่อนกลไกการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงพิเศษประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ พร้อมร่วมมือกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ในการเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เกินค่ามาตรฐาน  


ในวันพุธที่ ๒๖ ก.พ. ๖๓ เวลา ๐๙:๐๐ ณ โรงแรมนนทบุรีพาเลซ อ.เมือง จว.น.บ. ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๔ กองอำนวยการรักษาความมั่นคง จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ การขับเคลื่อนกลไกการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงพิเศษประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ และแนวทางในการขับเคลื่อนกลไกภาคราชการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงพิเศษ โดยเน้นด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน และอาหาร เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ร่วมมือกัน ในการดำเนินการในอันที่จะนำไปสู่จุดมุ่งหมายตามแผนแม่บทฯ ที่กำหนดไว้ และเพื่อให้มีการบูรณาการประสานงานกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ในการมีส่วนร่วมและช่วยเหลือ กอ.รมน. ในการขับเคลื่อนกลไกการป้องกันและการแก้ไขปัญหางานด้านความมั่นคงพิเศษให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ เพื่อที่จะได้นำ องค์ความรู้ที่ได้รับนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อองค์กร หน่วยงานที่รับผิดชอบ และประเทศชาติต่อไป ผลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยหวังว่าเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ทุกท่านจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ จนบรรลุวัตถุประสงค์ในการ ปฏิบัติงาน



 ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๔ กอ.รมน. มีหน้าที่รับผิดชอบภารกิจด้านการเสริมสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม พลังงาน อาหาร และการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมีหน้าที่สำคัญประการหนึ่ง ในการเสริมสร้างให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการป้องกันนและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศโดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกินค่ามาตรฐาน ๒.๕ ไมครอน หรือ PM ๒.๕ ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาสำคัญ และ ทวีความรุนแรงมาขึ้นของประเทศ




อีกทั้งตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ประจำปี 2563 ได้กำหนดให้หน่วยงานด้านความมั่นคง มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ดังนั้น เพื่อเป็นการร่วมบูรณาการขับเคลื่อนในมาตรการที่ 3 การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหาร จัดการมลพิษ ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองรัฐบาลได้มีการกำหนดการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษ ด้านฝุ่นละออง” ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๔ กอ.รมน. จึงได้ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ในการเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เกินค่ามาตรฐาน โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติสามารถให้การสนับสนุนสิ่งประดิษฐ์ เครื่องตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ หรือ Dustboy ซึ่งมีขีดความสามารถตรวจวัดค่าฝุ่นละออง และ รายงานข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพ อากาศตามเวลาปัจจุบัน โดยมีประสิทธิภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากล ดังนั้น



ในวันนี้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง  รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จึงได้กำหนดให้ รศ.ดร.เศรษฐ์  สัมภัตตะกุล ได้มาบรรยายการติดตั้งและใช้งานเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศระบบเซ็นเซอร์ DustBoy และ ทำการส่งมอบให้กับศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๔ กอ.รมน. เพื่อแจกจ่ายให้กับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศต่อไป

 ขอบคุณเรื่องแนะนำจาก ต.เตย ทีมงานฅนลุยข่าว รายงาน

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยแล้ง จัดทีมสังคมเคราะห์ลงพื้นที่ มอบน้ำดื่ม พร้อมถุงยังชีพ บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งชาวนครพนม 


วันนี้ (วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 63) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ เจ้าหน้าที่แผนกสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งชาวนครพนม มอบน้ำดื่ม พร้อมถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา และน้ำมันพืช รวม 1,000 ชุด รวมงบประมาณเป็นเงิน 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) โดยมีสมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม เป็นผู้ประสานงาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการร่วมในพิธี ณ บริเวณวัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม



และในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จะลงพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ผู้ประสบภัยแล้งชาวกาฬสินธุ์ และชาวมหาสารคาม รวมถึงชาวเพชรบูรณ์ เป็นลำดับต่อไป



โดยในปี 2563 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยฝ่ายสังคมสงเคราะห์ กำหนดลงพื้นที่มอบน้ำดื่มและถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน รวม 13 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย นครราชสีมา อุดรธานี บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ นครพนม บึงกาฬ มหาสารคาม และเพชรบูรณ์ รวมงบประมาณเป็นเงินทั้งสิ้น 6,500,000 บาท (หกล้านห้าแสนบาทถ้วน) 


ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และfacebook fanpage: facebook.com/atpohtecktung . #มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยแล้ง จัดทีมสังคมเคราะห์ลงพื้นที่ มอบน้ำดื่ม พร้อมถุงยังชีพ บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งชาวบึงกาฬ 


วันนี้ (วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 63) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ เจ้าหน้าที่แผนกสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งชาวอุดรธานี มอบน้ำดื่ม พร้อมถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา และน้ำมันพืช รวม 1,000 ชุด รวมงบประมาณเป็นเงิน 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) โดยมีมูลนิธิสว่างศรีวิไลธรรมสถาน เป็นผู้ประสานงาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการร่วมในพิธี ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอศรีวิไล และองค์การบริหารส่วนตำบลพรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ



และในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จะลงพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ผู้ประสบภัยแล้งชาวนครพนม ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอปลาปาก และเดินทางมอบให้กับผู้ประสบภัยแล้วในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และมหาสารคาม เป็นลำดับต่อไป




โดยในปี 2563 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยฝ่ายสังคมสงเคราะห์ กำหนดลงพื้นที่มอบน้ำดื่มและถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน รวม 13 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย นครราชสีมา อุดรธานี บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ นครพนม บึงกาฬ มหาสารคาม และเพชรบูรณ์ รวมงบประมาณเป็นเงินทั้งสิ้น 6,500,000 บาท (หกล้านห้าแสนบาทถ้วน) 



ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และfacebook fanpage: facebook.com/atpohtecktung . #มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยแล้ง จัดทีมสังคมเคราะห์ลงพื้นที่ มอบน้ำดื่ม พร้อมถุงยังชีพ บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งชาวอุดรธานี 


วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 63 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ เจ้าหน้าที่แผนกสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งชาวอุดรธานี มอบน้ำดื่ม พร้อมถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา และน้ำมันพืช รวม 1,000 ชุด รวมงบประมาณเป็นเงิน 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) โดยมีมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี เป็นผู้ประสานงาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการร่วมในพิธี ณ บริเวณวัดทุ่งสว่าง ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ และที่ว่าการอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี 




และในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จะลงพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ผู้ประสบภัยแล้งชาวบึงกาฬ ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอศรีวิไล และองค์การบริหารส่วนตำบลพรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ และเดินทางมอบให้กับผู้ประสบภัยแล้วในพื้นที่จังหวัดนครพนม กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม เป็นลำดับต่อไป




โดยในปี 2563 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยฝ่ายสังคมสงเคราะห์ กำหนดลงพื้นที่มอบน้ำดื่มและถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน รวม 13 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย นครราชสีมา อุดรธานี บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ นครพนม บึงกาฬ มหาสารคาม และเพชรบูรณ์ รวมงบประมาณเป็นเงินทั้งสิ้น 6,500,000 บาท (หกล้านห้าแสนบาทถ้วน)


ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และfacebook fanpage: facebook.com/atpohtecktung . #มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

Press Released for Raks Thai Foundation / Ajintai Thailand Grand Opening on 20th February 2020


มูลนิธิรักษ์ไทย สมาชิกองค์การแคร์นานาชาติ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานเปิดตัวค่ายเพลง Ajintai Thailand และวงบอยแบรนด์ในสังกัด “U-Lit” ที่จะมาฉุดกระแสวงการ T-POP ที่กำลังร้อนแรง ในงาน “Ajintai Thailand Grand Opening” ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่บนเรือสำราญล่องแม่น้ำเจ้าพระยาในค่ำคืนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 นี้





ทั้งนี้แล้ว ในงานนี้มูลนิธิรักษ์ไทย สมาชิกองค์การแคร์นานาชาติ ยังเห็นว่าน้องใหม่ไฟแรงในวงการบันเทิงอย่าง Ajintai Thailand มีศักยภาพของ และให้เปิดโอกาสให้กับน้องๆเยาวชนรุ่นใหม่มากมายได้มีความคิดสร้างสรรค์ และมีโอกาสตามหาฝันของตนเอง โดยปราศจากการกีดกันและเลือกปฏิบัติใดใด สอดคล้องกับแนวคิดการทำงาน “We empower everywhere we go” ของมูลนิธิรักษ์ไทยที่อยากจะเสริมพลังและสร้างสรรค์สังคมที่ดีอย่างยั่งยืนให้แก่ประเทศไทย นอกจากนั้นแล้วมูลนิธิรักษ์ไทยยังขออินเทรนด์จับประเด็นทางสังคมที่กำลังแพร่หลายอย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดียอย่างประเด็นเอชไอวี ที่มีประโยชน์ต่อเยาวชนในด้านดูแลสุขภาพการป้องกัน ตรวจหาเชื้อHIV และการเข้าสู่ระบบการรักษา ที่มูลนิธิรักษ์ไทยเชี่ยวชาญและมีองค์ความรู้ภายใต้โครงการยุติปัญหาวัณโรคและเอดส์ด้วยชุด RRTTR มาอธิบายและเล่าสู่กันฟังแก่ผู้ร่วมงานอย่างเข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้แล้วมูลนิธิรักษ์ไทยยังแอบกระซิบมาว่า ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 นี้ทางมูลนิธิจะมีงานระดมทุนครั้งใหญ่ครบรอบ 75 ปี CARE International โดยมูลนิธิรักษ์ไทยในฐานะสมาชิกร่วมกับองค์การแคร์ออสเตรียและองค์การแคร์สาธารณรัฐเช็ก




ร่วมกันจัดคอนเสิร์ตออเคสตร้าการกุศล Raks Thai Charity Concert ACT: We CARE for the Future มาในธีมเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดัง The Sound of Music บรรเลงโดยวง Royal Bangkok Symphony Orchestra โดยมีคุณแพท สุธาสินี พุทธินันทน์ และนักร้องชื่อจากประเทศออสเตรียอย่าง Sandra Pires มาร่วมขับร้องบทเพลงแห่งความทรงจำนี้ไปด้วยกันที่เมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ รายได้จะนำไปเป็นช่วยพัฒนาโครงการเด็กของมูลนิธิต่อไป โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อซื้อบัตรได้ที่ www.thaiticketmajor.com หรือที่เฟซบุ๊คแฟนเพจของ มูลนิธักษ์ไทยที่ facebook.com/raksthaifoundation/
ชมรมผู้สื่อข่าวกีฬามวยมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณบุคคลวงการมวยปี 2562 ค่ายมวยจิตรเมืองนนท์คว้า 6 รางวัล 


เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ชมรมผู้สื่อข่าวกีฬามวยมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณบุคคลวงการมวย ที่สโมสรนายทหารอากาศ บางซื่อโดย "ทิดแฝด" บุญเชือนเจริญผล ประธานชมรมผู้สื่อข่าวกีฬามวย มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ วุฒิสภา และประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมประชาชนเป็นประธาน พร้อมนายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย นายวิบูณ จำปาเงินผอ.สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย พร้อมบุคคลวงการมวยร่วมงานจำนวนมาก สำหรับรายละเอียดผู้ที่ได้รับรางวัลมีดังนี้




ค่ายมวยขวัญใจมหาชน 6 ค่าย จิตรเมืองนนท์ , ส.สมานการ์เม้นท์ , พรัญชัย ,ส.สมหมาย , ทีเด็ด 99

ค่ายมวยดาวรุ่งขวัญใจมหาชน 6 ค่าย สจ.โต้งปราจีน,ส.สละชีพ ,ทีเอ็นมวยไทย , อ.อู๊ดอุดร,ป.เพชรไข่แก้ว ,อ๊อด ตึกแดง นักมวยยอดเยี่ยมขวัญใจมหาชน หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ,นักมวยดาวรุ่งยอดเยี่ยมขวัญใจมหาชน เอกลักษณ์ ส.สมานการ์เม้นท์ , นักมวยดาวรุ่งขวัญใจมหาชน ชนะเลิศ มีนะโยธิน (ราชดำเนิน) เสมือนเทพ ป.เพชรศิริยิม(ลุมพินี) , นักมวยขวัญใจทีวียอดเยี่ยม มหาสมุทร หมูปิ้งอร่อยจุงเบย (ช่อง 7) ก้องไกล เอ็นนี่มวยไทย(ช่อง 3)   กรรมการผู้ตัดสินขวัญใจมหาชน นรินทร์ ผ่องหิรัญ (ราชดำเนิน) , พอ.พงษ์พันธ์ รัตนสุนทร(ลุมพินี) ,สมคิด อย่าลืมญาติ (ช่อง7) , ประธาน สุนทรวิภาค(ช่อง3) ผู้สื่อข่าวกีฬามวยอาวุโสที่เป็นแบบอย่างที่ดี สิงห์ทอง เสียงสุวรรณ , บุคคลทรงคุณค่าผู้ส่งเสริมอนุรักษ์มวยไทย ดร.กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ กับ พล.อ.ต.สมยศ จุลเสน , ปูชนียบุคคล เชิดศักดิ์ เอี่ยมเอิบ , บุคคลดีเด่นผู้เผยแพร่มวยไทยสู่ต่างแดน เสน่ห์ ทับทิมทอง , เทรนเนอร์ยอดเยี่ยม กุหลาบขาว ณ นนทชัย, รางวัลคู่มวยดุเดือดแห่งปี เพชรสมหมาย ส.สมหมาย กับ สะท้านเมืองเล็ก เพชรยินดีอะคาเดมี่ ,นักมวยสากลอาชีพยอดเยี่ยมขวัญใจมหาชน วันเฮง ซีพีเอฟ บุคคลดีเด่นผู้สร้างสรรค์วงการมวย ไก่ แก้วประพล กับ พัน มหาชัย , บุคคลผู้สร้างสีสันเพื่อวงการมวย ชาย มีนบุรี กับ ซ้อเอ๋ สุนทรี โลหะพืช , บุคคลดีเด่นส่งเสริม เสียสละเพื่อวงการมวย สจ.โต้ง ปราจีน กับ โกเด๊ะ พรัญชัย อดิเทพวรพันธ์ , โปรโมเตอร์ผู้สร้างสรรค์และเสียสละแห่งปี สมหมาย สกุลเมตตา กับ สมจิตร แว่นแก้ว , สื่อออนไลน์ดีเด่น มวยสยาม กับ SMM TV นักมวยหญิงขวัญใจมหาชน วันเดอร์เกิร์ล แฟร์เท็กซ์ , นักมวยหญิงดีเด่น ขวัญใจ ส.ตะวันรุ่ง (รัก)








วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วันที่ 22 ก.พ 2563 ศึกดาวรุ่งตลาดโรงเกลือท้ายเกาะ+เดชเพชรศรีทอง โดยมีผู้สนับสนุนมากมายประธานเปิดงาน สส ศุภชัย นพขำ สส ปทุมธานี และ สส จิรทัศ ไกรเดชา สส อยุธยา และ สจ อาทิตย์ ภาคอินทรีย์ สจ อำเภอบางปะอิน และ ยุทธศักดิ์ ล็อค 3 


ได้สนับสนุนมอบเงินคู่ดุเดือดให้กับนักมวย 10000 บาท โปรโมเตอร์ เสี่ยเดช เพชรศรีทอง ส.ท.วสันต์ อ่างทอง ผู้ช่วยโปรโมเตอร์ ประกบคู่มวยโดย หอยหวาน โคราช+วิทย์ หลังพระจันทร์แกลอรี่ หางบัตรจับแจกรางวัลลูกไก่พ่อพันธุ์เงินล้านหลายพ่อพันธุ์จำนวน 10 คู่ และมีถ้อยรางวัลคู่มวยดุเดือด ถ้วยรางวัลนักชกยอดเยี่ยม พร้อมเงินรางวัล ณ ตลาดโรงเกลือสามโคก ตำบลท้ายเกาะ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี














ภาพ เอ คนข่าว