วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยทีมบรรเทาสาธารณภัย จัดทีมกู้ชีพ ออกตรวจสุขภาพผู้ป่วยและผู้สูงอายุในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม จ.สุโขทัย ระหว่างลงพื้นที่ออกแจกจ่ายอาหารกล่องและน้ำดื่ม 

 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยทีมบรรเทาสาธารณภัย จัดทีมกู้ชีพ ออกตรวจสุขภาพผู้ป่วยและผู้สูงอายุในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม จ.สุโขทัย ระหว่างลงพื้นที่ออกแจกจ่ายอาหารกล่องและน้ำดื่ม 


วันที่ 26 สิงหาคม 63 ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำอาหารปรุงสุกบรรจุกล่องพร้อมน้ำดื่ม รวม 1,700 ชุด พร้อมยารักษาน้ำกัดเท้าจำนวนหนึ่ง ออกแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ณ บ้านป่ามะม่วง บ้านคลองหนอง บ้านคลองกระจง ตำบลหนองปลาหมอ และอำเภอสามเรือน พร้อมทั้งจัดทีมกู้ชีพออกตรวจสุขภาพผู้ป่วยและผู้สูงอายุพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม และดำเนินการนำผู้ป่วยจากพื้นที่ประสบภัยไปส่งโรงพยาบาลในพื้นที่อย่างปลอดภัย 




นับตั้งแต่วันที่วันที่ 22 สิงหาคม 63 ที่ผ่านมา ภายหลังจากเกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อ.เวียงสา จ.น่านอย่างหนัก นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ได้มอบหมายให้ทีมบรรเทาสาธารณภัย นำโดย คุณสมบูลย์ ขวัญอ่วม หัวหน้าแผนกบรรเทาสาธารณภัย นำทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมอุปกรณ์ เรือท้องแบน โรงครัวเคลื่อนที่ และอาหารสุนัขและแมว ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่พื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทันที จวบจนวานนี้ (25 สิงหาคม 63) ทีมบรรเทาสาธารณภัย ได้เคลื่อนกำลังพลจากจังหวัดน่านสู่สุโขทัย เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่านเริ่มคลี่คลาย และจังหวัดสุโขทัยกำลังประสบภัยน้ำท่วมอย่างวิกฤตในหลายพื้นที่ 




เมื่อเกิดอุทกภัยขึ้น “ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” นอกจากจะจัดทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมอุปกรณ์ การช่วยเหลือ เรือท้องแบน ชุดยาสามัญประจำบ้าน อาหารสุนัขและแมว ฯลฯ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ รวมถึงการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว “โรงครัวเคลื่อนที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” เป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ ที่ทีมบรรเทาสาธารณภัยนำจัดตั้งในพื้นที่เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกบรรจุกล่อง ออกแจกจ่ายเพื่อให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ได้รับประทานอาหารได้ทันที รวมทั้งจัดตั้งกองอำนวยการเพื่อประสานความช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย และจัดทีมกู้ชีพลงพื้นที่ออกตรวจวัดไข้ ความดัน และชีพจรแก่ผู้ป่วยและผู้สูงอายุเบื้องต้น เพื่อประเมินและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 





ตลอดระยะเวลา 110 ปี ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่างๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งการบูรณาการการให้ความช่วยเหลืองานด้านบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา ทั้งคน และสัตว์ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมโลก เป็นไปอย่างทันท่วงที . ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือทั้งด้านบรรเทาสาธารณภัยและสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ ต่อไป 


#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน #ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต

 ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

ชัด เตาปูน”เสนอรัฐบาลชูหวยใต้ดินโต๊ะบอล คาสิโนให้ถูกต้องตามกฎหมายแบ่งกำไรแก้ไขหนี้สินชาวนา 

 “ชัด เตาปูน”เสนอรัฐบาลชูหวยใต้ดินโต๊ะบอล คาสิโนให้ถูกต้องตามกฎหมายแบ่งกำไรแก้ไขหนี้สินชาวนา 



 วันที่ 27 ส.ค. ที่สโมสรนายทหารอากาศ บางซือ นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท (พทท.) ได้จัดประชุมใหญ่เพื่อชี้แจงการทำงานของพรรคที่ผ่านมาต่อสมาชิกและกำหนดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคในส่วนที่ขาดหายไปเพื่อผลักดันคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารงานพรรคให้ก้าวหน้าขึ้น พร้อมแถลงจุดยืนของพรรคในการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ว่า ขอแสดงจุดยืนอีกครั้งว่า เราจะปกป้องสถาบันอย่างสุดชีวิต อะไรที่อยู่ตรงข้ามสถาบันเราจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งชีวิตจะไม่ยอมให้สถาบันของเราเสียหาย 



นายชัชวาลล์ กล่าวว่าในที่ประชุมพรรคได้มีการนำเสนอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินและการสนับสนุนต้นทุนการประกอบอาชีพประชาชนโดยการขอแบ่งสัดส่วนรายได้สลากกินแบ่งมาช่วยประชาชนและจะเสนอให้นำหวยใต้ดิน โต๊ะบอล คาสิโน ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายและนำเนินงานโดยรัฐเพื่อสร้างรายได้ก้อนใหม่ของประเทศเพื่อนำมาการแก้ปัญหาหนีสิ้นและสนับสนุนต้นต้นการประกอบอาชีพของประชาชน นอกจากนี้พรรคฯจะเสนอให้รัฐบาลใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในแก้ไขปัญหายาเสพติดอีกด้วย ด้านนายชื่นชอบ คงอุดม โฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า พรรคเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยสนับสนุนให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร) จำนวน 200 คน ได้แก่ ตัวแทนจากการเลือกตั้งใน 77 จังหวัด กลุ่มวิชาชีพ นักศึกษา และตัวแทนจากพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อยู่ในสภาฯ พรรคละ 1 คน เพราะทุกคนเป็นตัวแทนของประชาชน ไม่ว่าพรรคเล็กพรรคใหญ่ก็เป็นตัวแทนของประชาชน รวมทั้งหัวใจสำคัญของการก่อตั้งพรรค คือ การดำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นสถาบันหลักของชาติ พรรคจึงไม่ร่วมสังฆกรรมกับพรรคการเมือง หรือการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับข้องกับหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ นายชื่นชอบ กล่าวอีกว่า ในส่วนประเด็นอำนาจของ ส.ว. นั้น คิดว่าทุกคนเห็นตรงกันว่า เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในอนาคต จึงไม่ควรมีอำนาจในการโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเชื่อว่า นายกรัฐมนตรี ท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชนะโดยเสียงในสภาฯ อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมี ส.ว. ด้านศาสตราจารย์โกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า พรรคอยากเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยบรรจุหมวดว่าด้วยเรื่องการปกครองท้องถิ่น 




โดยมีการกระจายอำนาจท้องถิ่นอย่างเข้มข้น ที่ให้ทั้งอำนาจ และงบประมาณ ที่เป็นสัดส่วนเหมือนเช่น ปี 2540 คือ 35% วันนี้ท้องถิ่นได้เพียง 29.50% ซึ่งไม่เป็นธรรมกับท้องถิ่นที่รับภาระอยู่ เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลจัดสรรงบประมาณผ่านกระทรวงมากเกินไป แต่ท้องถิ่นได้น้อยมาก ไม่มีความเป็นธรรม เพราะท้องถิ่นต้องดูแลกลุ่มเปราะบาง คนจน และกลุ่มคนว่างงาน ซึ่งถือเป็นนโยบายของพรรค ที่จะไปต่อสู้กับวิปรัฐบาลต่อไป 




“อย่างไรก็ตาม พรรคพลังท้องถิ่นไท ได้ร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็พร้อมที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญกับรัฐบาลอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นมารยาททางเมือง และแนวทางของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ก็เห็นตรงกับพรรค มีบางประเด็นที่เห็นต่าง แต่ไม่ใช้สาระสำคัญที่จะไปต่อสู้กัน”ศาสตราจารย์โกวิทย์ กล่าว ผู้สื่อข่างรายงานว่าในที่ประชุมได้มีนายโสภณ เพชรสว่าง ได้สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไทอีกด้วย

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2563

133คนเฮ..จบหลักสูตรผู้นำเมืองรุ่นที่ 5 พร้อมใจกันพัฒนากรุงเทพมหานคร

 133คนเฮ..จบหลักสูตรผู้นำเมืองรุ่นที่ 5 พร้อมใจกันพัฒนากรุงเทพมหานคร 



วันที่ 25 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ห้องบองกอก ชั้นบี2 (อาคารไอราวัตพัฒนา) ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ได้มีผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการพัฒนาผู้นำเมืองรุ่นที่ 5 จำนวน 133 คนเดินทางมารับประกาศนียบัตรหลังจบหลักสูตรการอบรมเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมีศาสตราจารย์ สุรพล นิติไกรพจน์ เป็นประธานในงาน 



สำหรับผู้เข้าร่วมอบรมที่มีชื่อเสียงอาทิเช่นคุณประภา ปูรณโชติ ประธานบริษัทผาแดงอินดัสทรี เป็นประธานรุ่น ดร.จำลอง ช่วยรอด ที่ปรึกษารัฐมนตรีแรงงาน นายปรพล อดิเรกสาร ที่ปรึกษารองประธานสภานายสุชัย พงษ์เพียรชอบ กรรมการผู้จัดการตลาดคลองเตย เป็นต้น 




และหลักสูตรดังกว่าได้อบรมมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ถึงวันที่ 20 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา คุณประภา ปูรณโชติ ประธานหลักสูตรผู้นำเมืองรุ่นที่ 5 กล่าวว่า ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก ควบคู่ไปกับการดูแลพี่น้องประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุขอย่างแท้จริง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้นำที่ดี มีความสามารถเชี่ยวชาญงานในหน้าที่ รวมทั้งต้องมีความรอบรู้ มีวิจารณญาณ และเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม ซึ่งการศึกษาอบรมหลักสูตร ผู้บริหารระดับสูงด้านการพัฒนาผู้นำเมือง เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้ผู้บริหารระดับสูงที่มาจากทุกภาคส่วน ได้รับการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการบริหารจัดการเมือง ในทุกมิติ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน 



เพื่อร่วมกันพัฒนากรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างบูรณาการและยังยืน ดังนั้นผู้ที่จบหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการพัฒนาผู้นำเมืองรุ่นที่ 5 ในวันนี้จะนำความรู้ ประสบการณ์ และข้อคิดเห็น จากการอบรมอันจะนำไปสู่การเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการทำงาน ตลอดจนสร้างเครือข่ายในการบูรณาการความร่วมมือด้านต่างๆ เพื่อการพัฒนาเมือง สร้างคุณประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติต่อไปและขอแสดงความยินดีกับทุกคนด้วยที่จบหลักสูตรดังกล่าว

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2563

“ชัช เตาปูน”เสนอนำรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งกองทุนแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับประชาชน 

“ชัช เตาปูน”เสนอนำรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งกองทุนแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับประชาชน 


 วันที่ 22 สิงหาคม 63 นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท (ในฐานะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้แห่งชาติ สภาผู้แทนราษฏร )นำคณะลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เพื่อรับฟังปัญหาจากตัวแทนเกษตกร 18 จังหวัด ว่า "อะไรคือต้นเหตุของการเป็นหนี้เกษตรกร "โดยมีตัวแทนจากสมาคมชาวนาและเกษตรกร นำเสนอปัญหาเรื่องน้ำและต้นทุนการเพาะปลูกเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาหลักดังกล่าว





โดยที่ประชุมมีความเห็นว่ารัฐบาลต้องเร่งจัดทำแหล่งน้ำขนาดเล็กให้มากขึ้น เช่นธนาคารน้ำใต้ดิน ฝายชลอน้ำ แหล่งน้ำขนาดเล็ก เพื่อให้เกษตรมีน้ำใช้เข้าถึงระดับครัวเรือน ส่วนต้นทุนการเพาะปลูกรัฐต้องเป็นผู้สนับสนุนเกษตรโดยตรงไม่ใช่ปล่อยให้พ่อค้าคนกลางเป็นคนจัดการ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรโดนเอารัดเอาเปรียบได้ 



 ด้านนายชัชวาลล์ คงอุดม กล่าวว่ารัฐบาลต้องเร่งจัดการให้มีกองทุนเพื่อสนับสนุนต้นทุนการเพาะปลูกของเกษตรกร โดยเสนอให้นำรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาลส่วนหนึ่งมาจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือปัญหาหนี้ของเกษตรกรในระยะยาว

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2563

นพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งบริษัทวินด์ เดิม ทวงถามหนี้ณพ 2 หมื่นล้าน  

นพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งบริษัทวินด์ เดิม ทวงถามหนี้ณพ 2 หมื่นล้าน  


จากกรณีที่นายณพ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหารบริษัทวินด์ เอนเนอร์ยี จำกัด แถลงข่าวเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมาถึงประเด็นข้อพิพาทเรื่องการซื้อขายหุ้นกับนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งบริษัทและเจ้าของหุ้นเดิม โดยอ้างว่าได้ชำระค่าหุ้นแก่เจ้าของเดิมครบถ้วนแล้ว และคดีความต่าง ๆ ที่มีการฟ้องร้องกันไปมานั้นปัจจุบันหลายคดีสิ้นสุดแล้วและนายณพเป็นฝ่ายชนะทั้งหมด 



 นายนพพรได้ออกมาโต้ประเด็นดังกล่าวอย่างทันควัน โดยระบุว่าในส่วนเรื่องการชำระค่าหุ้นนั้น จากมูลค่าซื้อขายที่ตกลงกันไว้ที่ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท) นายณพโดยบริษัท เคพีเอ็น อีเอ็ช จำกัด ได้ชำระก้อนแรกจำนวน 90.51 ล้านเหรียญเมื่อ ธ.ค.2558 และก้อนที่ 2 นายณพโดยบริษัท ฟุลเลอร์ตัน เบย์ อินเวสเมนท์ส จำกัด จำนวน 85 ล้านเหรียญ เมื่อ มิ.ย. 2562 ทั้งที่กำหนดชำระจริงคือ ตุลาคม 2558 จึงมีดอกเบี้ย ส่วนยอดคงค้างที่เหลือเมื่อรวมดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายที่ศาลสั่งให้นายณพชำระเนื่องจากแพ้คดีความจะสูงถึง ประมาณ 680 ล้านเหรียญ “จากค่าใช้จ่ายส่วนที่ศาลบังคับแสดงถึงว่านายณพเป็นฝ่ายแพ้คดี มิใช่เป็นฝ่ายชนะคดีทั้งหมดดังที่กล่าวอ้าง” นายนพพรกล่าว 



 ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายณพยังค้างชำระหนี้จำนวนมากเช่นนี้ จะบังคับให้ชำระค่าหุ้นได้อย่างไร ผู้ก่อตั้งบริษัทวินด์กล่าวว่า นายณพได้ใช้เทคนิคในการถ่ายเทหุ้นจากประเทศไทยไปยังเกาะฮ่องกง โดยมีการถ่ายเทไปหลายทอดซึ่งปรากฏชื่อนายเกษม ณรงค์เดช ซึ่งเป็นบิดาของนายณพ เป็นผู้รับหุ้นและโอนต่อไปยังบริษัทโกลเด้น มิวสิค จำกัด ซึ่งมีชื่อ คุณหญิงกอแก้ว บุณยจินดา แม่ยายของนายณพเป็นเจ้าของ ต่อมานายเกษมเป็นผู้ฟ้องร้องกล่าวหานายณพว่าปลอมลายเซ็นในการรับและโอนหุ้นดังกล่าว ทำให้ตนต้องขออำนาจศาลฮ่องกงมีคำสั่งห้ามจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นของบริษัทโกลเด้นฯ เพื่อป้องกันการโอนหุ้นหนี ซึ่งก็ได้รับความกรุณาจากศาลฮ่องกง “ที่นายณพบอกว่าคดีที่ฮ่องกงนั้นศาลยกหมดแล้วจึงไม่จริงเพราะผมไม่ได้ฟ้องคดีอะไรที่นั่นเลย แต่ไปฟ้องคดีที่ประเทศอังกฤษเพราะฮ่องกงใช้กฎหมายของอังกฤษ โดยฟ้องในข้อหา conspiracy หรือร่วมกันฉ้อโกงเจ้าหนี้ ซึ่งศาลน่าจะตัดสินช่วงปลายปีหน้า และผมมั่นใจว่าจากหลักฐานที่มีผมชนะแน่นอน ซึ่งระหว่างนี้ศาลกรุณาสั่งห้ามโอนหุ้นขของบริษัทโกลเด้นฯ ในฮ่องกงไว้แล้ว” นายนพพรระบุ นายนพพรระบุว่าหากตนชนะคดี ศาลก็จะบังคับให้บริษัทโกลเด้น ฯ ขายหุ้นเพื่อนำเงินมาชำระหนี้แก่ตนตามกฎหมาย ต่อข้อถามว่ามีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายวีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ ทนายของนายณพ และธนาคารไทยพาณิชย์ที่ศาลประเทศอังกฤษจริงหรือไม่ นายนพพรกล่าวว่า ฟ้องจริงเนื่องจากนายวีระวงศ์เป็นที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวของนายณพช่วงระยะเวลาในการโอนหุ้น ขณะเดียวกันก็ยังเป็นกรรมการอิสระของธนาคารไทยพาณิชย์อีกด้วย เมื่อนายณพใช้เทคนิคโอนหุ้นไปยังนายเกษมซึ่งทางธนาคารฯ ในฐานะเจ้าหนี้กำหนดเงื่อนไขให้ที่ปรึกษากฎหมายต้องออกความเห็น (Legal Opinion) ว่า หุ้นดังกล่าวสามารถโอนได้ และรับรองว่าการโอนหุ้นนั้นโอนได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ธนาคารไทยพาณิชย์จึงกำหนดว่า คนออกความเห็นนั้นคือ WCP ซึ่งเข้าทางณพ เพราะ WCP นั้นมีนายวีระวงศ์ เป็นผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้น “แบบนี้ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า “ชงเองกินเอง” นายนพพรระบุ 


 ผู้สื่อข่าวถามว่าหากนายณพมาขอเจรจาเพื่อให้ยุติข้อพิพาทต่าง ๆ จะยินดีเจรจาหรือไม่ นายนพพรยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเจรจา เพียงแค่นายณพปฏิบัติตามคำสั่งของอนุญาโตตุลาการและศาลคือการชำระหนี้ทุกอย่างก็จบ ต่อข้อซักถามถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของวินด์ฯ ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าวว่า ขอให้เป็นดุลยพินิจของตลาดหลักทรัพย์และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แต่เมื่อผู้บริหารมีพฤติกรรมขาดธรรมาภิบาลเช่นนี้ ผู้มีอำนาจต้องพิจารณาว่าควรจะให้นายณพเข้าไปเป็นผู้บริหารบริษัทมหาชนหรือไม่ ทั้งนี้นายนพพรได้ยกตัวอย่างพฤติกรรมของนายณพที่อาจจะไม่โปรงใสและขาดธรรมาภิบาลว่า ที่ผ่านมามีการไซฟ่อนเงิน โดยนำเงินบริษัทมาใช้จ่ายเรื่องส่วนตัว และนำภรรยาและพนักงานบริษัทภรรยามารับเงินเดือนจากวินด์โดยที่ไม่ได้ทำงานให้วินด์ รวมไปถึงการนำเงินของวินด์จำนวน 300 ล้านบาทมาชำระหนี้ค่าหุ้นแก่ตนในนามของตัวนายณพฯเอง

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2563

 เบิร์ธเดย์ปีที่ 79 “ดร.สันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์” อดีต รมช.กระทรวงสาธารณสุข คลื่นมหาชนร่วมอวยพรคับคั่ง 


 วันที่ 20 ส.ค.63 ที่โรงแรมดราก้อนบีชโฮเท็ล จ.ชลบุรี ครอบครัว “งามพิเชษฐ์” โดยนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้จัดงานวันคล้ายวันเกิดปีที่ 79 ให้ ดร.สันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ อดีต รมช.กระทรวงสาธารณสุข และงานทำบุญธุรกิจใหม่โรงแรมดราก้อนบีชโฮเท็ล โรงแรมหรูริมหาดจอมเทียน







 ภายในงานวันนี้มีกลุ่มมวลชน ตัวแทนภาครัฐ เอกชน ประชาชน และกลุ่มการเมืองท้องถิ่น ร่วมแสดงความยินดีจำนวนมาก อาทิ คุณแม่สติล คุณปลื้ม ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีภาคกลาง, นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา, นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี, นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง, นายชาญยุทธ เฮงตระกูล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายสง่า กิจสำเร็จ ประธานธานบริหาร บริษัท เอสเค คอนสตรัคชั่นจำกัด, นายสมพันธ์เพ็ชรตระกูล ประธานชมรมคนดีศรีเมืองชลพร้อมนางสาวทิฐิพันธ์ เพ็ชรตระกูล เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการท่องเที่ยวสภาผู้แทนราษฎร, นายไพโรจน์ ประวัติเลิศอุดม ประธาน กต.ตร.สภ.หนองปรือ, นายวิโรจน์ อำนวยยนต์วารี ประธาน กต.ตร.สภ.บางละมุง, นายไพรัตน์ ไตรศุภโชค นายกเทศมนตรีตำบลห้วยใหญ่คณะผู้บริหาร, นายมานพ ประกอบธรรม นายกเทศมนตรีตำบลตะเคียนเตี้ยพร้อมคณะบริหาร, นายจำเนียร กีทีปกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้วพร้อมคณะบริหาร, ประธานชุมชน, นายพนธกร ใคร่ครวญ รองนายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบพร้อมคณะบริหาร, นักธุรกิจ, ผู้นำชุมชน, ญาติพี่น้อง เข้าร่วมงาน 







 ในงานได้ตั้งโต๊ะตรวจวัดอุณภูมิคัดกรอก ผู้มาร่วมงานตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขมาตรการควบคุมโรคโควิด 19 พร้อมแจกเยล และแมสให้ผู้ร่วมงาน และการออกร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างๆมากมาย 















 อนึ่ง ดร.สันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ ถือเป็นนักการเมืองต้นแบบแห่งเมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรีที่มีผลงานด้านการพัฒนาท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน จนปัจจุบันได้รับความเคารพกับประชาชนกลุ่มมวลชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก เคยได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลในอดีตและเคยดำรงตำแหน่ง รมช.กระทรวงสาธารณสุข มาแล้ว.....เอคนข่าว/รายงาน