จับกุมเครือข่ายแก๊งค์สกิมเมอร์และนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมารูดกับเครื่องอนุมัติเงินอัตโนมัติและส่งเงินไปยังต่างประเทศ มูลค่าความเสียหายกว่า 23 ล้านบาท
ด้วยเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 ได้รับการประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย ว่ามีบุคคลนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมารูดกับเครื่องอนุมัติวงเงินอัตโนมัติ (EDC) บริเวณคอนโดแห่งหนึ่ง ย่าน ถ.รัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมมหานคร จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2561 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. , พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. , พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร , พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง รอง ผบช.ทท. , พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1 , พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นในธรรม ผบก.สส.สตม. , พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว , เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ และ เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ได้ร่วมกันจับกุม
1.น.ส.สุรางคนา บุญเรียบ อายุ 36 ปี โดยกล่าวหาว่า “มีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ” และ
2.น.ส.รัชนีวรรณ โถนะวัลย์ อายุ 41 ปี “มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
จับกุมได้ที่ ห้องพักรัชดาออร์คิดทาวเวอร์ ถ.รัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
พร้อมของกลาง เครื่องบันทึกข้อมูลลงในแถบแม่เหล็ก จำนวน 1 เครื่อง , บัตรอิเล็กทรอนิกส์เปล่า (บัตรขาว) จำนวน 11 ใบ , คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค , ไอแพด ,โทรศัพท์มือถือ , บัญชีธนาคารของผู้อื่น จำนวน 64 เล่ม , บัตรเอทีเอ็มของผู้อื่น จำนวน 47 ใบ , เครื่องอนุมัติวงเงินอัตโนมัติ (EDC)/เครื่องรูดบัตร จำนวน 15 เครื่อง และ สลิปสรุปยอดการใช้บัตรรูดจากเครื่องอนุมัติเงินสดอัตโนมัติ จำนวน 125 ใบ โดย น.ส.สุรางคนาฯ และ น.ส.รัชนีวรรณฯ ยอมรับว่าเป็นคนทำหน้าที่ในการจัดหา เครื่องอนุมัติวงเงินอัตโนมัติ (EDC) พร้อมกับบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มที่ผูกกับเครื่องอนุมัติวงเงินอัตโนมัติ (EDC) นำมาให้กับชายชาวจีนเพื่อใช้รูด เมื่อรูดเงินแล้วชายชาวจีนดังกล่าวจะส่ง สลิปยอดรูดเงินมาให้ เพื่อให้ไปกดเงินแล้วนำมาเงินมาให้กับชายชาวจีน โดย น.ส.สุราคนาฯ และ น.ส.รัชนีวรรณฯ จะได้ส่วนแบ่งเป็นเงินร้อยละ 1 ของยอดเงินสดที่กดมาได้
ต่อมาวันที่ 25 พ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลจับกุมชายชาวจีนเพิ่มเติมอีก 2 คน ประกอบด้วย
1.MR.SUN ZHIDENG (ซุน เด็ง) อายุ 32 ปี สัญชาติจีน และ
2.MR.YU PENG (ยู เป็ง) อายุ 36 ปี สัญชาติจีน
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้นโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน , ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และ ร่วมกันมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์”
จับกุมได้ที่ บางกอกรัชดาเซเว่นทีนคอนโด ซ.อินทามระ 47 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
พร้อมของกลาง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม จำนวน 150 ใบ , บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นจำวน 20 ใบ , เครื่องบันทึกข้อมูลลงแถบแม่เหล็ก ,คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค, สมุดบัญชีธนาคาร , สลิปใบเสร็จจากเครื่องอนุมัติวงเงินอัตโนมัติ จำนวน 4 ใบ , และของกลางอื่นๆอีกหลายรายการ
จากการตรวจสอบพบว่าเครือข่ายดังกล่าวนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 ตรวจสอบจากสลิปใบเสร็จจากเครื่องอนุมัติวงเงินอัตโนมัติ พบว่าเบื้องต้นมีการรูดเงินไปมูลค่าความเสียหายกว่า 23 ล้านบาท โดย MR.SUN ZHIDENG (ซุน เด็ง) และ MR.YU PENG (ยู เป็ง) เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวและแอบแฝงเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทย และ MR.SUN ZHIDENG (ซุน เด็ง) และ MR.YU PENG (ยู เป็ง) ยอมรับว่าเป็นคนจัดหาข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้เสียหายซึ่งส่วนมากเป็นคนจีนมาแล้วทำการบันทึกลงในบัตรอิเล็กทรอนิกส์เปล่า(บัตรขาว) หลังจากนั้นได้ว่าจ้างคนไทยให้ไปจัดหาเครื่องอนุมัติวงเงินอัตโนมัติ (EDC) มาให้แล้วนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมารูด เมื่อเงินเข้าบัญชีของเจ้าของเครื่องรูดแล้วก็จะให้คนไทยไปกดเงินแล้วแบ่งกันตามสัดส่วนที่ได้ตกลงกันไว้ หลังจากนั้นจะนำเงินที่ได้ส่งกลับประเทศผ่านร้านรับแลกเงินแห่งหนึ่งในเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
//ขอขอบคุณ ภาพ/ ข่าว จาก
พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น