วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

จับกุมมิจฉาชีพหลอกลวงลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ


ด้วยศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผอ.ศปอส.ตร. ,พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รอง ผบช.ภ.8 รรท.ผบช.ทท. ได้รับร้องเรียนจากประชาชนกว่า 30 คน ซึ่งตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกลวงนำเงินมาลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศการันตีผลตอบแทนสูง เข้าข่ายกระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน     จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีตามกฎหมาย


​จากการสืบสวนทราบว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้มี ส.อ.เรืองชาติ  ไชยบุตร และนางสาวสุชัญญา  สุขาบูรณ์ อดีตแฟนสาว กับพวกรวม 5 คน    ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดำเนินกิจการนำเงินมาลงทุนซื้อขาย แลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ เช่น เงินสกุลเยน สกุลวอน  และสกุลดอลล่าห์สหรัฐ   ซึ่ง ส.อ.เรืองชาติฯ จะเป็นทำหน้าที่ชักชวนหาผู้สนใจร่วมลงทุน     โดยโพสต์รูปภาพ และข้อความเกี่ยวกับซื้อขายเงินตราต่างประเทศ  ในเฟซบุ๊คของตน โดยใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า “LekkayuiiMydarling”   การันตีผลตอบแทนร้อยละ 10 ของเงินทุนที่ลงทุน และจ่ายผลกำไรทุก 7-10 วัน  มีผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหา    ซึ่งช่วงแรกได้รับผลตอบแทนจริงตามที่กำหนด   ต่อมาผู้ต้องหาไม่จ่ายผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้  โดยอ้างว่าต้องรอสัญญากับบริษัทที่ญี่ปุ่นซึ่งจะหมดในวันที่ 26 มิถุนายน 2561 เสียก่อน    จึงจะนำเงินมาจ่ายคืนให้ผู้เสียหายทั้งหมดได้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2561  แต่เมื่อถึงกำหนดก็ไม่มีการจ่ายเงินให้กับผู้ลงทุนแต่อย่างใดและไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้   ​พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย  ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”
​ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศได้ติดตามจับกุมตัว ส.อ.เรืองชาติ  ไชยบุตร พร้อมพวกรวม 4 ราย  อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว 1 ราย



กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกง"ระวางโทษ "จำคุกไม่เกิน3 ปี  ปรับไม่เกิน 60,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา341, 83
ความผิดฐาน "ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน" ระวางโทษ "จำคุก 5 - 10 ปี ปรับ5แสน - 1 ล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่" ตาม พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527   มาตรา 4 , 5 , 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83


//ขอขอบคุณ ภาพ/ ข่าว จาก
พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น