การปฏิบัติการภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. , พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รรท.รองผบช.สตม. , พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร. ได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.)
โดยมีจุดมุ่งหมายการปฏิบัติเพื่อทำการปราบปรามกลุ่มชาวต่างชาติซึ่งได้ใช้วิธีการก่ออาชญากรรมผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็คทรอนิกส์อันเป็นรูปแบบในการกระทำความผิดที่มีการเปลี่ยนแปลงจากอาชญากรรมรูปแบบเดิม อันมีความสลับซับซ้อน และมีมูลค่าในความเสียหายจำนวนมาก
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายชาวต่างชาติผิวสีเครือข่ายโรแมนซ์แสกม มีพฤติกรรมตระเวนถอนเงินตามตู้ ATM หลายแห่งบริเวณถนนอุดมสุข จึงได้ทำการไปตรวจสอบพบคนร้ายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้ายตามภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนมาก่อนหน้านี้ จึงได้ทำการเข้าไปตรวจสอบและตรวจค้นพบ สมุดบัญชีธนาคาร, บัตรกดเงินสด (ATM), โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค และพบเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาได้สวมใส่ขณะกระทำความผิด ซึ่งตรวจสอบพบว่าบัตรกดเงินสดและสมุดบัญชีธนาคารดังกล่าวตรงกับบัญชีคนร้ายที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเป็นจำนวนเงิน 243,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายได้ทำการแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี และพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว และภายหลังได้ทำการประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สงขลา เพื่อทำการสืบค้นข้อมูลจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ( ระบบ PIBICS ) พบว่าผู้ต้องหา ไม่มีการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยแต่อย่างใด และตรวจสอบรอยตราประทับแล้วพบว่ารอยตราประทับรหัส B373 ของพนักงานเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จว.สงขลา นั้นชำรุด ไม่ได้นำมาใช้งานแต่อย่างใด จากพฤติการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจศปอส.ตร. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. จึงได้จับกุมตัว
นาย อเล็กซ์ มานูเอล (MR.ALEX MANUEL) อายุ 27 ปี เกิดวันที่ 1 พ.ค. 2534 สัญชาติกินี-บิสเซา หนังสือเดินทางประเทศสาธารณรัฐกินี-บิสเซา เลขที่ AAAN01462
โดยกล่าวหาว่า “ปลอมเอกสาร และใช้เอกสารทางราชการปลอม (รอยตราประทับขาเข้า รหัส B373)ของเจ้าพนักงานด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและ/หรือเป็นบุคคลต่างด้าวไม่เข้าเมืองตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานี หรือท้องที่ที่กำหนดไว้
ซึ่งผู้ต้องหาให้การ รับสารภาพว่า ตนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยรถบัส และใช้วิธีการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบช่องทางจังหวัดสงขลา และได้จัดส่งหนังสือเดินทางผ่านทางไปรษณีย์ ให้กับนายโจเซฟ ซึ่งเป็นชาวไทยอ้างตนว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อช่วยตรวจลงตราประทับ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา โดยให้ค่าจ้างแก่นายโจเซฟ เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท และเข้ามาอยู่ในประเทศไทย มีหน้าที่ถอนเงินจากบัญชีกลุ่มแก๊งคนร้าย (Romance Scam) ที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน
5 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ถอนได้ และจะนำเงินที่ถอนออกมาฝากเงินเข้าบัญชีคนร้ายอีกทอดหนึ่งเพื่ออำพรางเส้นทางการเงิน หลังจากที่ตระเวนถอนเงินหลายครั้ง ผู้ต้องหาจึงได้เริ่มหลอกลวงผู้เสียหายด้วยตนเองโดยสร้างเฟสบุ๊คพูดคุยหลอกลวงผู้เสียหาย (อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาผู้เสียหาย) จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. เข้าทำการจับกุมในที่สุด
ซึ่งในการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ เห็นได้ว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ระดมปราบปรามกลุ่มคนร้ายเครือข่ายโรแมนซ์แสกม กลุ่มคนร้ายได้ปรับเปลี่ยนวิธีการและใช้กลุ่มคนร้ายที่ยากแก่การตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังสื่อมวลชน แจ้งไปยังประชาชนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนร้าย พร้อมทั้งหากพบเห็นกลุ่มบุคคลผู้ต้องสงสัย สามารถแจ้งผ่านมายังศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสายด่วน 1155 เพื่อดำเนินการปราบปรามกลุ่มผู้กระทำความผิดต่อไป
//ขอขอบคุณ ภาพ/ ข่าว จาก
พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น