ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนสื่อ หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม จาก ศูนย์เสริมความงามสปา หลังถูกเบี้ยวค่าก่อสร้างและตกแต่งภายในมูลค่าความเสียล้านกว่าบาท
โดยทางตัวแทนผู้รับเหมาตกแต่ง ได้เข้าร้องเรียนกับทางสื่อมวลชนว่า ตนเอง และผู้ร่วมรับเหมาได้ทำการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกของศูนย์เสริมความงาม สปา แห่งนี้ซึ่งอยู่บนถนนเลียบทางด่วนถนนประดิษฐมนูญธรรม6 ใกล้ทางออกถนนลาดพร้าว โดยทางศูนย์เสริมความงามแห่งนี้ได้ว่าจ้างทางผู้รับเหมาทำการตกแต่งอาคารทั้งภายในและภายนอก ให้เป็นอาคารใหม่เพื่อที่จะให้บริการเป็นศูนย์เสริมความงาม โดยทางผู้รับเหมาได้ทำการตกแต่งตามข้อตกลงซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาว่าจ้างมาตลอดและได้ทำการเบิกเงินเป็นงวดๆในการทำงาน แต่ที่ผ่านมาทางสปาได้ทำการชำระเงินค่าว่าจ้างเป็นงวดมาตลอด จนกระทั่งถึงงวดสุดท้าย ถ้าศูนย์เสริมความงามแห่งนี้ได้แจ้งกับทางผู้รับเหมาว่า ให้ทำการแก้ไขในส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งทางผู้รับเหมาเองก็ได้ทำการแก้ไขในการตรวจรับส่งมอบงานมาตลอด แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือในการเข้าดำเนินการปรับปรุงและซ่อมแซม ในส่วนของงานที่ยังไม่เรียบร้อย โดยทางศูนย์เสริมความงามได้ทำการล๊อคกุญแจเพื่อไม่ให้ผู้รับเหมาเข้าดำเนินการแก้ไข และให้เหตุผลในการเข้าดำเนินการว่า ไม่ต้องการให้ทางผู้รับเหมาเข้าดำเนินการแล้ว เพราะต้องการเปลี่ยนผู้รับเหมารายใหม่ให้เข้ามาดำเนินการแทนพร้อมกับได้ทำการยกเลิกสัญญาการว่าจ้างโดยไม่ได้ชี้แจงถึงการยกเลิกสัญญาและปฏิเสธการจ่ายเงิน แม้ทางกลุ่มผู้รับเหมาจะพยายามติดต่อกับทางเจ้าของศูนย์เสริมความงามก็ได้รับการปฏิเสธที่จะเจรจามาตลอด โดยทางกลุ่มผู้รับเหมาได้เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยในการตกลงและเจรจาเรื่องค่าเสียหาย แต่ก็ไม่เป็นผล โดยมีการนัดหมายไปเจรจากันที่สถานีตำรวจแต่ทางเจ้าของศูนย์เสริมความงามก็ไม่เคยไปตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งนัดไว้และยังปฏิเสธการเจรจาทุกกรณี ทางกลุ่มผู้รับเหมาจึงได้ทำการประสานไปยังผู้รับเหมารายอื่นถึงพฤติกรรมของบริษัทที่เป็นเจ้าของศูนย์เสริมความงามแห่งนี้ ว่ามีผู้รับเหมารายได้เจอเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ ในส่วนของผู้รับเหมารายอื่นก็แจ้งมาว่าทางบริษัทรายนี้มีพฤติกรรมที่จะทำแบบนี้กับผู้รับเหมาที่เข้ามาดำเนินการในธุรกิจโดยจะใช้วิธีการปฏิเสธผู้รับเหมาทุกกรณีเพื่อที่จะไม่ชำระเงินงวดสุดท้ายแก่ผู้รับเหมา ทางกลุ่มผู้รับเหมาจึงเดินทางเข้ามาร้องเรียนกับทางสื่อมวลชนเพื่อให้ช่วยตรวจสอบสถานะของบริษัทรายนี้ เพราะเท่าที่สืบทราบมาเจ้าของบริษัทรายนี้ไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริง ซึ่งเจ้าของที่แท้จริงของทางบริษัทจะเป็นชาวจีนโดยใช้ชื่อคนไทยเปิดบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและยังมีพฤติกรรมที่ปฏิเสธการชำระเงินในการก่อสร้างที่จังหวัดภูเก็ตอีกด้วย
โดยผู้เสียหายรายนึงได้กล่าวว่าตนเองมาทวงถามกับทางเจ้าของศูนย์เสริมความงามแห่งนี้ หลายรอบมากแต่ก็ได้รับการปฏิเสธมาตลอด ทางผู้รับเหมาที่ทำงานด้วยกันก็เดินทางมาทวงถามแต่ก็ได้รับการปฏิเสธและยังแจ้งกับตนว่า งานไม่เรียบร้อยไม่ให้เข้าดำเนินการต่อถ้าอยากได้เงินให้ไปฟ้องร้องเอา เพราะที่ผ่านมาคนจ่ายเงินและคนที่ตกลงเรื่องงานคือชาวจีนที่ตนได้ไปคุยงาน ตนเองมีการบันทึกไว้ตลอดจึงเชื่อได้ว่าชาวจีนรายนี้น่าจะเป็นคนอยู่เบื้องหลังในการทำธุรกิจในประเทศไทย และได้ประสานกับผู้รับเหมารายอื่นก็ได้คำตอบเช่นเดียวกันถึงพฤติกรรมชาวจีนรายนี้ เพราะมีเรื่องเบี้ยวจ่ายเงินที่ภูเก็ตและชาวจีนรายนี้ยังดำเนินธุรกิจเคเบิ้ลทีวีในไทยอีกด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับทางศูนย์เสริมความงามแห่งนี้แต่ก็ได้รับการปฏิเสธที่จะไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและยังได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาดูว่าเป็นสื่อมวลชนจริงหรือไม่ โดยแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ากลุ่มสื่อมวลชนที่มาไม่ใช่สื่อมวลชนจริงและไม่มีบัตรประจำตัวสื่อและให้ทาง รปภ.ทำการบันทึกภาพกลุ่มสื่อมวลชนตลอดการทำข่าวและสังเกตุการณ์ นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข่าว ได้เปิดเผยว่า นายทุนชาวจีนคนดังกล่าวได้ลงทุนเปิดธุรกิจต่างๆในจังหวัดภูเก็ตและว่าจ้างบริษัทรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดภูเก็ต ให้ดำเนินการจัดสร้าง สุดท้ายก็มีพฤติกรรมแบบเดียวกันกับผู้รับเหมาในกรุงเทพๆ ถึงขนาดที่ผู้รับเหมาต้องให้คนงานช่วยกันล้อมไม่ให้ออกจากพื้นที่ เนื่องจากมีเจตนาเบี้ยวค่ารับเหมาก่อสร้างงานดังกล่าว แหล่งข่าวยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า นายทุนชาวจีนคนดังกล่าว ยังเป็นเจ้าของโครงการ ใหญ่ ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเคยตกเป็นข่าวเหตุจากเครนยักษ์ได้ล้มทับคนงานดับ 1 เจ็บ 3 เมื่อปี พ.ศ.2559 จนเป็นข่าวดัง แต่คดีก็เงียบไป ในประเด็นเบี้ยวค่ารับเหมางานก่อสร้าง นับว่าเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก ซึ่งเชื่อว่ายังมีบริษัทและผู้เสียหายอีกหลายแห่งที่ถูกเบี้ยวค่ารับเหมาก่อสร้างจากนายทุนชาวจีนคนดังกล่าว อย่างไรก็ตามถ้ามีความคืบหน้าในประเด็นข่าวนี้ ทีมข่าวจะนำเสนอให้ทราบอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับต่อไป//
ทีมข่าวเฉพาะกิจ เรื่องราวร้องทุกข์ รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น