วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2562

สืบสามเสนจับกุมคดีเรียกค่าไถ่ 3ล้าน วันที่ 21ม.ค.2562

สืบสามเสนจับกุมคดีเรียกค่าไถ่ 3ล้าน 
วันที่ 21ม.ค.2562

ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่นผบช.น.มอบหมายให้พลตำรวจตรีคัชชา ธาตุศาสตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพร้อมด้วยพลตำรวจตรีเสนิส สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พันตำรวจเอกมนต์ชัย ศรีประเสริฐ รองผบช.น.1 พันตำรวจเอกนครินทร์ สุคนธวิทรองผบช.น.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมผู้ต้องได้ 2 ราย 1.ชื่อ นาย วรพงษ์ ปิ่นสุวรรณ์ อายุ50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ซอยเทพนิมิตร 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร และ 
2.นาย ธงชัย คำพันธ์ อายุ31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ที่1ตำบลแพงใหญ่ อำเภอเหล่าเสือโก๊ก จังหวัดอุบลราชธานี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 86/2562 ลงวันที่20 มกราคม 2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน"ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ,ร่วมกันเรียกค่าไถ่,ร่วมกันชิงทรัพย์และร่วมกันกระทำความผิดต่อเสรีภาพ"
โดยสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2562เวลา 21.45 น.ที่บริเวณหน้าสามัคคีอพาร์ทเม้น ซอยสามัคคี55 ถนนสามัคคี ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี(ผู้ต้องหาที่1) พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ฮ้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีเทา ทะเบียน วภ 4381 กรุงเทพฯ และ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีขาว จำนวน1เครื่อง(ที่ใช้เรียกค่าไถ่) ,เสื้อกั๊กผ้ายีนต์ จำนวน1ตัว ,หมวกแก๊ปสีเทา จำนวน1 ใบ(ใช้สวมใส่วันก่อเหตุ) และกุญแจมือ(ที่ใช้ล็อคผู้เสียหาย)
พลตำตรวจตรีเสนิต เปิดเผยว่า คดีนี้ที่เกิดขึ้นกับญาติตัวเอง โดยคนร้ายมีศักดิ์เป็นหลานของผู้เสียหาย ทำทีหลอกผู้เสียหายว่าจะมาช่วยดูแลการพาไปติดต่อทำธุรกรรม ที่ศูนย์ราชการโดยผู้เสียหายไปเป็นประจำ โดยระหว่างเดินทางไปได้ใช้อาวุธมีดและกุญแจมือล็อคแล้วขู่เพื่อที่จะ ให้ยอมให้เงิน โดยติดต่อมาทางลูกของผู้เสียหายให้โอนเงินให้ จำนวน3ล้าน แต่ลูกชายกับลูกสาวไม่ได้ตัดสินใจให้ หลังจากนั้นได้เดินทางมาหาตำรวจที่ สน.สามเสน เพื่อที่ ไม่ติดตามตัวคนร้ายให้ และทำให้ทางฝั่งผู้ต้องหารู้ว่าตำรวจรู้แล้ว จึงนำเงินที่อยู่ในตัวผู้เสียหายไป จากน้นได้นำตัวผู้เสียหายลงที่สามโคก เจ้าหน้าที่จึงประสานงานกับพื้นที่ จนทราบว่าตัวผู้เสียหายหรือคุณยายปลอดภัย ต่อมาทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สามเสนออกติดตามจนทราบตัวผู้ก่อเหตุและออกหมายจับ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มกราคม และออกหมายจับในวันที่ 15 มกราคม จนสามารถจับกุมได้ในวันที่ 19-20 มกราคม ที่ผ่านมา

พันตำรวจเอกนครินทร์ สุคนธวิท รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 เปิดเผยว่าภายหลังที่จับตัวได้ ก่อนหน้านี้นาย วรพงษ์ (ผู้ต้องหา)มีอาชีพขับรถยนต์แท็กซี่รับจ้าง และได้นำรถยนต์ไปขาย หลังจากนั้นได้นำเงินไปซื้อรถยนต์ของกลาง โดยผู้ต้องหาชอบมาติดต่อยืมเงินผู้เสียหาย ยื้มทีละ 10,000-20,000 แต่ไม่ค่อยจะคืน โดยล่าสุดมายืมเงินผู้เสียหาย 2หมื่นแต่ลูกสาวผู้เสียหายไม่ได้ให้ ในวันเกิดเหตุ วันที่ 11 มกรา ประมาณ 11.00น. (ผู้ต้องหา)หรือนายวรพงษ์ ได้ขับรถมากับนายธงชัย (ผู้ต้องหาที่2) มาทำทีเยี่ยมเยียนปกติและรับอาสาเพื่อไปรับส่งผู้เสียหายที่ศูนย์ราชการ โดยขับไปตามทาง เส้นถนนสามเสน28 จนกระทั่งไปถึล ถนน 345 จ.ปทุมและได้ให้นายธงชัย(ผู้ต้องหาที่2)ลงจากรถและลงมานั่งด้านหลัง และจับผู้เสียหายใช้อาวุธมีดขู่และใช้กุญแจมือล็อค ต่อมาได้โทรหาบุตรชายของผู้เสียหายว่า ขณะนี้จับคุณป้า(ผู้เสียหาย)ไว้วแล้ว ให้นำเงินจำนวน 3ล้านบาท มาไถ่ตัว โดยทั้ง2ฝ่ายเป็นญาติกัน และได้ชิงทรัพย์เงินสดของผู้เสียหายไปประมาณ 32,000บาท ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สามเสน ติดตามจับกุมตัวได้ในวันต่อมา
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและถูกเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา"ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ,ร่วมกันเรียกค่าไถ่,ร่วมกันชิงทรัพย์และร่วมกันกระทำความผิดต่อเสรีภาพ และนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น